“ผู้ค้าเหล็ก” จี้ “ก้าวไกล” เร่งฟอร์มรัฐบาลใหม่ แก้ปม “ค่าครองชีพ-ไฟแพง”
“ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล” ส่งข้อความถึงพรรคก้าวไกล เร่งฟอร์มรัฐบาลใหม่ ควรให้ความสำคัญแก้ปัญหาค่าครองชีพและค่าไฟแพง รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าของประเทศไทย เชื่อว่าประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงาน (16 พ.ค.66) หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้ออกมาเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์กับ Bangkok Post โดยได้ส่งข้อความถึงรัฐบาลชุดใหม่ นำโดยพรรคก้าวไกล มีใจความว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งควรให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายแก้ปัญหาค่าครองชีพและค่าไฟฟ้าที่สูง รวมถึงไม่ลืมที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าของประเทศไทย
ดร. สมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาค่าครองชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรายได้น้อยควรเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ควรให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เพราะตอนนี้ทุกคนได้ “ฝากความหวัง” ไว้ที่รัฐบาลชุดนี้กันทั้งหมด
นอกจากนี้ บรรดาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าเหล็กต่างได้รับผลกระทบจากบิลค่าไฟที่สูงลิ่วในช่วงที่ผ่านมา และแม้ว่ารัฐบาลชุดก่อนได้ดำเนินการลดอัตราภาษีค่าไฟ แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากดร. สมศักดิ์ยังมีความกังวลว่าค่าไฟประเทศไทยจะมีโอกาสสูงเกินกว่าประเทศเพื่อนบ้านจนส่งผลต่อความสามารถแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กไทย
ดังนั้น ดร.สมศักดิ์จึงอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยความละเอียดและรอบคอบ เพราะนอกจากเรื่องนี้จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจแล้ว ยังจะช่วยไม่ให้ภาระไปตกอยู่ผู้บริโภคอีกด้วย
ด้านความคาดหวังในการสนับสนุนผู้ค้าเหล็กรายย่อย ดร.สมศักดิ์อธิบายว่า ขณะนี้อัตราการใช้กำลังการผลิตในประเทศอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่บังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดที่เข้มงวดกว่านี้เพื่อป้องกันการนำเข้าเหล็กจากต่างชาติในราคาต่ำแต่ไม่ได้มาตรฐาน ออกกฎหมายเพื่อปกป้องนักธุรกิจที่ทุ่มทุนไปหลายพันล้านบาท รวมถึงแรงงานอีกกว่า 200,000 คนในอุตสาหกรรมนี้ และสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศเพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยเติบโตได้
ทั้งนี้ หากรัฐบาลชุดใหม่สามารถจัดการกับปัญหาทั้งค่าครองชีพ ค่าไฟฟ้า ปัญหาในอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า รวมถึงปัญหาในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้สำเร็จ เชื่อว่าประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน