CHAYO งบ Q1 โชวก์กำไร 118 ล้านบาท โต 55% อานิสงส์พอร์ตลูกหนี้พุ่ง

CHAYO ผลงานไตรมาส 1/66 ทำสถิติใหม่ โชว์กำไรพุ่ง 55% แตะ 118.28 ล้านบาท หลักพอร์ตลูกหนี้พุ่ง ฟากผู้บริหารมั่นใจปี 66 ว่าจะสามารถเติบโตไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ คือรายได้เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 25%   


นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 118.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรที่ทำสถิติใหม่ โดยเติบโตมากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 72.50 ล้านบาท เติบโต 63%

สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่หนี้ด้อยคุณภาพและการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม อีกทั้งยังนับว่าเป็นกำไรสุทธิสูงสุดรายไตรมาสเท่าที่ได้ดำเนินการมา สอดคล้องกับรายได้รวมจากการดำเนินงานของทางบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยรายได้มีอยู่จำนวน 369.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.68% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 221.75 ล้านบาท

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 มีรายได้และมีการหาช่องทางในการทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติม คือ การให้บริการจัดหาพนักงานให้กับโรงงานต่างๆ

ขณะที่ในงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มียอดหนี้สินจากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและยอดรายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 105.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าไตรมาส 1/2565 อยู่จำนวน 33.82 ล้านบาท อีกทั้งยอดจัดเก็บจากหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเนื่องมาจากในช่วงปลายปี 2564 ถึงปี 2565 นั้น ทางบริษัทฯ ได้มีการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดที่ไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้น จึงส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สิน จำนวน 8.83 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น  10.96% จากไตรมาส1/2565 โดยมีสาเหตุจากปริมาณการว่าจ้างติดตามทวงถามมากขึ้น

นายสุขสันต์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2566 ทางบริษัทนั้นมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตไปถึงเป้าหมายที่ได้วางแผนเอาไว้ได้ คือเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 25%  โดยบริษัทได้เข้าประมูลและ/หรือเจรจาซื้อพอร์ตหนี้จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งในการซื้อหนี้เสียมาบริหาร

ทั้งนี้ ธุรกิจที่กำลังเติบโต อาทิ การปล่อยสินเชื่อ บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรกอยู่ที่จำนวน 21.39 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 65.95% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2565 เป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น สรุปยอดรวมลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ 668.56 ล้านบาท จากปี 2565 อยู่ที่ 387.22 ล้านบาท  โดยจากผลดังกล่าวนับว่าเป็นการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยวางเป้าหมายทั้งปี 2566 ปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีก 600-800 ล้านบาท สนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปีจะเพิ่มเป็นกว่า 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ที่ 600 ล้านบาท

Back to top button