จับตา KTB เด้ง! โบรกแห่อัพเป้าสูงสุด 24.75 บ. ทั้งปีกำไร 3.8 หมื่นล้าน โต 14%
KTB ได้รับการปรับราคาเป้าหมายขึ้นสูงสุด 24.75 บาท หลังการประชุมระหว่างผู้บริหารและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองส่วนต่างดอกเบี้ย หรือ NIM ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยดันกำไรไตรมาส 2-3 ทะยานต่อเนื่อง ส่งผลทั้งปี 66 กว่า 3.8 หมื่นล้านบาท โต 14% ส่วนแอปฯ เป๋าตัง ยังช่วยกวาดรายได้ค่าฟี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB นำโดย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ประชุมนักวิเคราะห์ โดยมีการให้ข้อมูลสำคัญทางการเงินและแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ออกมาดังนี้
โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป้าหมายทางการเงินในปี 2566 ของ KTB ยังดีตามที่คาด ซึ่งผู้บริหาร KTB ยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2566 โดยสินเชื่อจะเติบโตได้ 3-5% จากปีก่อน จากสินเชื่อรายใหญ่และรายย่อย ส่วน Net Interest Margin หรือ NIM จะมากกว่า 2.8% และมีโอกาสได้ถึง 3.0% ได้ โดยจะเห็นการเพิ่มขึ้นของ NIM จนถึงไตรมาส 3/2566 ขณะที่ไตรมาส 4/2566 จะเริ่มเร่งหาเงินฝากประจำเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กลยุทธ์ปี 2566 จะมุ่งการใช้ฐานข้อมูลจากเป๋าตังมาต่อยอดทั้งเรื่อง Digital loan หรือสินเชื่อดิจิทัล และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น (จากแอปฯ เป๋าตัง) ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ที่ 14% เทียบปีก่อน ขณะที่ บล.ดาโอ คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2566 จะเพิ่มขึ้นได้ทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากการตั้งสำรองฯ ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และ NIM ที่เพิ่มขึ้นได้ดี
ส่วนของราคาหุ้น KTB เพิ่มขึ้น 13% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับดัชนีจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่กำไรไตรมาส 2/2566 จะเติบโตเด่นเหนือกลุ่ม ส่วนราคาหุ้นยังซื้อขายที่ระดับ P/BV เพียง 0.67 เท่า โดยราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไรรายไตรมาสที่ทำได้มากกว่าช่วงก่อนโควิด จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2566 เพิ่มเป็น 21 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด มีมุมมองเชิงบวกกับ KTB เช่นกัน เนื่องจากผู้บริหารคาดว่าส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin หรือ NIM) จะสูงขึ้นในไตรมาส 2-3/2566 ด้วยต้นทุนที่ควบคุมได้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2568 ขึ้น 10.6-11.2% จากรายได้ต้นทุน (CIR) ที่ลดลง และ NIM ที่สูงขึ้น โดย NIM จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ฝ่ายวิจัยฯ ไม่กังวลกับดอกเบี้ยค้างรับที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากลักษณะพิเศษของการชำระคืนเงินกู้ของรัฐบาล คงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่สูงขึ้นเป็น 24.75 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเป็นกลางต่อเป้าหมายทางการเงินส่วนใหญ่ยังใกล้เคียงกับที่คาดไว้ก่อนหน้า โดยธนาคารมองสินเชื่อเติบโตดี จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย ขณะที่แนวโน้ม NIM ยังเป็นบวกต่อเนื่อง ดอกเบี้ยนโยบายที่ยังเป็นขาขึ้น แต่ต้องจับตาดูต้นทุนทางการเงินที่อาจเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง
สำหรับเป้า Credit Cost ใกล้เคียงคาด ยังคงอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (Coverage Ratio) ไว้ระดับสูง ยังคงเป้าหมายกำไรปี 2566 โต 17% เทียบปีก่อน แนวโน้มกำไรไตรมาส 2-3/2566 มีปัจจัยบวกจาก NIM ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 22 บาท อิงอัตราส่วนทางการเงิน (Price to Book Value Ratio หรือ P/BV) ที่ 0.75 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกกับ KTB จากแนวโน้มกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 2/2566 ของ KTB จะปรับตัวขึ้นต่อทั้งเทียบปีก่อน และเทียบไตรมาสที่ผ่านมา หนุนด้วยการตั้งสำรองที่จะผ่อนคลายลง หลังคุมคุณภาพหนี้ได้ดี และเริ่มได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่ พอร์ตของ KTB ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้งานภาครัฐ และสินเชื่อส่วนบุคคลแบบ MOU (ตัดเงินผ่านบัญชีเงินเดือน) ทำให้ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ
นอกจากนี้ คาดรายได้ดอกเบี้ยจะโตดีหลังพอร์ตสินเชื่อมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว และ NIM ทยอยปรับขึ้นเรื่อย ๆ ตามการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงที่ผ่านมา หนุนให้ฝ่ายวิจัยคาดทั้งปี 2566 ของ KTB จะมีกำไรสุทธิ 36,446 ล้านบาท เติบโต 8.2% เทียบปีก่อน ได้ตามประมาณการเดิม
โดยมอง KTB เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อดีและมีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่เห็นพัฒนาการของศักยภาพทำกำไรที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และมูลค่า (Valuation) ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูง ทำให้มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น ปัจจุบันราคาหุ้นมีอัพไซด์ 11.7% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 21 บาท และคาดให้ดิวิเดนด์ยีลด์อีก 4.2% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มอง KTB กำไรดีต่อ โดยภาพรวมคงเป้าหมายทางการเงินปี 2566 โดยเป้าหมาย NIM ปีนี้ที่มากกว่าระดับ 2.8% มั่นใจว่ามีโอกาสทำได้ดีกว่าหลัง NIM งวดไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ราว 3.0% ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย M-Rate ช่วงเดือน เม.ย. 2566 เฉลี่ย 0.23% และหากกนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุม 29 พ.ค. 2566 สร้างโมเมนตัมต่อเนื่องให้กับ NIM ในงวดไตรมาส 3/2566 โดยพัฒนาการของ NIM คาดผลักดันกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 ขยายตัวเทียบไตรมาสที่ผ่านมา และเทียบปีก่อน
แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุน (Outperform) จาก Coverage Ratio สูงเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ อีกทั้งกระแสข่าวการศึกษาค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมใช้เงินสด ในกรณีที่เกิดขึ้น คาดบวกต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของ KTB ที่มีสัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและเงินฝากออมทรัพย์ (CASA) สูง และมีฐานลูกค้าต่างจังหวัดจำนวนมาก
ด้านมูลค่าน่าสนใจ P/BV ซื้อขาย 0.66 เท่า, PER ที่ 7.4 เท่า และดิวิเดนด์ยีลด์ 4% ต่อปี (จ่ายปีละครั้ง) ประเมินราคาเป้าหมาย 20.30 บาท