โบรกแนะซื้อ ADVANC-TRUE ราคาลึกเกินพื้นฐาน ชี้หุ้นปลอดภัย
โบรกแนะ “ซื้อ” ADVANC ราคาเป้าหมาย 250 บาท และ TRUE ราคาเป้าหมาย 9 บาท ชี้ราคาปัจจุบันกลับมาอยู่ที่ระดับก่อนการควบรวมแล้ว ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากสัดส่วน Risk/reward แล้วถือเป็นหุ้นปลอดภัยที่เข้าไปซื้อได้ที่ราคานี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเสี่ยงด้านนโยบายตามที่พรรคก้าวไกลประกาศออกมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจมือถือในประเทศไทยคือ “การยกเลิกการผูกขาด” เพราะมีผู้เล่นหลักเพียงสองรายในตลาด คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
โดยผลดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทร่วงลงมาแรงตั้งแต่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งเนื่องจากความกลัวเกี่ยวกับนโยบายนี้ ส่งผลให้ ADVANC ราคาหุ้นปรับตัวลง 4.52% วัดจากราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 12 พ.ค. 66 อยู่ที่ 221 บาท เทียบกับราคาหุ้นวันนี้ 23 พ.ค. 66 ณ เวลา 10:47 น. อยู่ที่ 211 บาท ขณะที่หุ้น TRUE ราคาหุ้นปรับตัวลง 11.76% วัดจากราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 12 พ.ค. 66 อยู่ที่ 7.65 บาท เทียบกับราคาหุ้นวันนี้ 23 พ.ค. 66 ณ เวลา 10:47 น. อยู่ที่ 6.75 บาท
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี ได้พยายามวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับอัตรากําไรของผู้ประกอบการมือถือในอนาคตและพบว่าผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างแรก คือการแก้ไขมติ กสทช. ที่อนุญาตให้ DTAC และ TRUE ควบรวมกันได้โดยให้มีผลย้อนหลังอย่างที่สอง คือจะมีการควบคุมการคิดค่าบริการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดค่าครองชีพที่สูงขึ้นของคนไทยอย่างสุดท้าย คือการอนุญาตให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งในธุรกิจนี้
นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่าผลกระทบจากนโยบายของพรรก้าวไกลต่อธุรกิจมือถือน่าจะจํากัด โดยในส่วนของผลกระทบอย่างแรก และมองว่าการยกเลิกดีลควบรวมย้อนหลังมีความเป็นไปได้ต่ำเนื่องจาก 1) ตามหลัก “กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง (Ex post facto law) ไม่สามารถมีผลย้อนหลังได้ ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายการควบรวมกิจการจะไม่ส่งผลกับการควบรวมที่เกิดขึ้นแล้วของ DTAC และ TRUE และ 2) นอกจาก กสทช. แล้ว ศาลยังเชื่อว่า DTAC และTRUE สามารถควบรวมกันได้โดยแจ้งให้ กสทช. ทราบเท่านั้น
โดยผลกระทบอย่างที่สอง ทางฝ่ายวิจัยคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาแทรกแซงการกำหนดราคาค่าบริการ แต่การบังคับใช้ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะการแทรกแซงราคาต้องกดำเนินการผ่านตัวกลางที่เป็นองค์กรอิสระอย่าง กสทช. ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในการกำกับดูแลธุรกิจนี้ นอกจากนี้ค่าบริการในปัจจุบันของผู้ประกอบการยังต่ำกว่าระดับที่ทางการกำหนดไว้
ส่วนการวิเคราะห์ sensitivity พบว่า ARPU ที่ลดลงทุก ๆ 1% จะทำให้กําไรของ ADVANC ลดลง 3% และทำให้ผลขาดทุนของ TRUE ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาท จากเดิมที่ 650 ล้านบาท ซึ่งมองว่าการส่งเสริมให้ผู้การแข่งขันมากขึ้นจากการเพิ่มผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดมือถืออิ่มตัวแล้ว โดยมี penetration rate สูงถึง 130% ดังนั้น จึงไม่ง่ายที่จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งเพราะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในส่วนของโครงข่ายและคลื่น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผลกระทบจะจํากัด แต่ราคาหุ้นของทั้ง TRUE และ ADVANC กลับลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าก่อนที่ DTAC และ TRUE จะควบรวมกันแล้ว ซึ่งแม้ว่าผลประกอบการของ TRUE ในไตรมาส 1 ปี 2566 จะอ่อนแอ แต่อานิสงส์จากการประหัดต้นทุนเพราะการควบรวมก็ไม่ได้หายไปไหน
ในขณะเดียวกัน ADVANC อาจจะเผชิญความท้าทายจากการควบรวมกับ 3BB แต่ในแบบจําลองของฝ่ายวิจัยนั้น ประเมินว่า 3BB จะไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้กับ ADVANC เพราะมีผลขาดทุนจากการทำสัญญาที่เงื่อนไขไม่ดีนักกับ JASIF ทั้งนี้ แนะนํา “ซื้อ” ทั้ง ADVANC ราคาเป้าหมาย 250 บาท และ TRUE ราคาเป้าหมาย 9 บาท