“ไชน์สต็อก” ชี้ “SET บวก TFEX ติดลบ” เหตุฝรั่งเปิดชอร์ตก่อนเทหุ้น ปล่อยกองทุนซื้อเหงา
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิด 1,534.84 จุด บวก 5.60 จุด ฟากตลาด TFEX ปิดลบ 3.6 จุด เจอนักลงทุนต่างชาติเปิดชอร์ตก่อนเทขายสุทธิ 3.85 พันล้านบาท ของตัวสัญญา S50M23 ก่อนหมดอายุสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(23 พ.ค.66) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,534.84 จุด บวก 5.60 จุด หรือ 0.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,775.34 ล้านบาท
ขณะที่การซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX ) พบว่า การซื้อขายใน SET50 Futures สัญญา S50M23 ปิดวันนี้อยู่ที่ 926.2 จุด ลบไป 3.6 จุด ราคาสูงสุด 930.0 ราคาต่ำสุด 917.0 ราคาเฉลี่ย 923.7 โดยมีปริมาณการซื้อขาย 263,007 สัญญา สถานะคงค้าง 530,578 สัญญา
จากการตรวจสอบพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,852.84 ล้านบาท และ นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 547.41 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 4,305.42 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 94.83 ล้านบาท
ด้านเพจ ShineStock (ไชน์สต็อก) เขียนระบุเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า วันนี้หากใครได้มีเวลานั่งดูความเคลื่อนไหวของตลาดTFEX โดยเฉพาะซีรี่ย์ S50M23 จะเห็นการต่อสู้ระหว่าง กลุ่มคนที่มองตลาดลง กับ กลุ่มคนที่มองตลาดจะรีบาวน์
โดยกลุ่มแรกที่มองตลาดลง คงหนีไม่พ้นนักลงทุนต่างชาติ ที่นอกจากมีหุ้นในมือที่จะคอนโทรลตลาดในช่วงที่มีใครก็ได้ใส่bid เข้ามา ก็พร้อมจะโยนใส่ โดยเป้าหมายอยู่ในหุ้นSET10-20 ตัวแรก ที่ต่างชาติถืออยู่
นอกจากนี้ยังมีเงินสดที่พร้อมจะเล่นshort-long ในตลาดTFEX เพื่อที่จะหาส่วนต่าง(gain) ทั้งในส่วนที่เปิดshort ก่อนที่จะเทขายหุ้น และเปิดlong เพื่อพยุงดัชนีและภาพรวมให้ดูเหมือนมีแรงรับอยู่ในบางจังหวะ โดยส่วนตัวคงไม่กล้าพูดไปถึงขนาดที่ว่า “แต่งกราฟ” ให้สวย เพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน
ก่อนอื่นต้องขออัพเดทสถานการณ์สักนิดก่อนว่า ตอนนี้ “ต่างชาติเล่นหุ้น และ TFEX” ส่วน “กองทุน” ก็เล่นเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นหุ้น ส่วนใหญ่จะเล่นหุ้นคนละตัวกับที่ฝรั่งขายออกมา
ด้าน”รายย่อย” ช่วงหลัง หนีไปเล่น TFEX กับ”ฝรั่ง” ส่วนหุ้นใหญ่ที่ฝรั่งขาย”รายย่อย”ไม่ยุ่ง ไม่กล้าแตะ จะมีก็แต่หุ้นขนาดกลางกับเล็ก ที่รายย่อยจะเข้าไปเล่น โดยอาศัยเล่นตามผู้นำจิตวิญญาณ หรือ เจ้ามือเป็นหลัก.
นี่แหละคือ เหตุผลที่ตลาดเขียวไม่ทั่วฟ้า ถ้าแยกออกจะเข้าใจว่า ทำไมบางครั้ง SET INDEX กับ TFEX และหุ้นรายตัว มันถึงไปคนละทิศคนละทาง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีตัวแปรหลัก ที่หลายคนทราบว่า TFEX เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหุ้นใน SET50 ซึ่งวันนี้หุ้นDELTA-AOT ติดลบหนักมีผลต่อการติดลบของดัชนีรวมกัน -7 จุด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ SETติดลบเลย จะเรียกว่า DELTA-AOT ลงทำให้TFEX ลบ แต่ไม่ได้ทำให้ SETลบ
ส่วนหุ้นที่พยุงตลาด ที่มีผลต่อดัชนีมากที่สุด 15 ตัวแรก อาทิ หุ้น KTB-BAY-PTT-TMB-CPF-PTTEP-BTS-KBANK-SCB-CPN-AWC-WHA-ADVANC-GULF-BBL ทั้งหมดนี้รวมกันพยุงSETให้บวกได้ +5.83 จุด เท่านั้น
ทำให้ เราไม่อาจทราบได้ว่า อันไหนคือภาพจริงกันแน่? ระหว่าง SET ที่บวก หรือ TFEX ที่ติดลบ
ประเด็นนี้ ทำให้เกิดความไม่แน่นอน หรือ ยากที่จะเดาทิศทางของตลาดหุ้นว่าจะไปไหนทิศทางใดในวันถัดไป แอดฯจำได้ว่าในอดีตเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ในช่วงเปลี่ยน หรือใกล้ซีรี่ย์หมดอายุ แต่เนื่องจากS50M23 ยังเหลือเวลาให้เล่นอีกเดือนกว่าๆ จึงไม่น่าเป็นเหตุผลข้อนี้
แต่สิ่งที่พอจะสรุปได้ คือ นักลงทุนรายย่อย หันไปเล่นTFEX กันมากขึ้น ซึ่งบางวันวอลุ่มเทรดพุ่งสูงขึ้นที่สุดสำหรับซีรี่ย์นี้ ที่แอดฯได้เขียนบันทึกเอาไว้เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่มีจำนวนสัญญามากถึง 3.6 แสนสัญญา
การที่มีวอลุ่มเทรดที่คึกคัก ทำให้เข้าทางนักลงทุนต่างชาติ ที่มีหุ้นอยู่ในมือมหาศาล สนใจจะหากำไรจากTFEX มาชดเชยขาดทุนหุ้นที่ต้องขายออกไป
การมีหุ้นในมือ บวกกับ มีเงินสด ถือเป็นโอกาสที่จะสามารถคอนโทรลตลาดที่สามารถเล่นshort ให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เหตุที่มองฝรั่งเล่นshort เพราะขายหุ้นมาตลอด
“เปิดshortก่อน แล้วค่อยเทขายหุ้นออกมา” จึงเป็นอะไรที่เนียน และง่ายมาก สำหรับต่างชาติ แม้ช่วงนี้จะมีกองทุนมาขวาง แต่ก็กังวล เพราะยังมีของเหลืออีกไม่อั้น
ในขณะที่ฝั่ง”กองทุน” ผู้ที่สามารถต่อกร กับ”ต่างชาติ” ได้ เนื่องจากมีหน้าตักใหญ่ไม่แพ้กัน บางครั้งก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปรับหุ้นต่อจากต่างชาติเลย แต่ดูอาการnet buy หุ้นบวกหลายตัววันนี้น่าจะรับของฝรั่งไปพอสมควร
ทั้งนี้นี้ต้องเข้าใจว่า กองทุนมีข้อจำกัดในเรื่องของเงิน เพราะรายย่อยเป็นเจ้าของเงิน ที่จะเติมใส่เข้ามา หรือในทางตรงข้าม ถ้าต้องการจะไถ่ถอน คือขายทิ้ง ก็สามารถสั่งได้เลย ซึ่งข้อจำกัดตรงนี้ถือเป็นความผันผวน ที่ทำให้บางครั้ง เราเห็นกองทุนซื้อสุทธิ บางครั้งก็ขายสุทธิ
โดย กองทุน ส่วนใหญ่ มักจะแปรผันตามอารมณ์ของรายย่อย ซึ่งผู้จัดการกองทุน ก็มีหน้าที่ซื้อๆ ขายๆ ตามอารมณ์ของรายย่อยเช่นกัน
ถ้าช่วงไหนตลาดน่ากลัว การไถ่ถอนหน่วยลงทุนย่อมต้องมีเข้าทั่วทุกสารทิศ เพราะอารมณ์และความรู้สึก ของรายย่อยส่วนใหญ่มักจะคล้ายๆกัน
ข้อสังเกตที่แอดฯตั้งขึ้นมา ยังไม่มีข้อสรุป จนกว่าจะมีคำเฉลยในวันข้างหน้าว่า ทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่รู้แน่ ๆว่า คนที่ซื้อหุ้น กับคนที่ short TFEXเป็นคนละกลุ่ม ก็ต้องมาตามดูกันต่อว่า การต่อสู้ครั้งนี้ใครจะชนะ ระหว่าง”ต่างชาติ”ที่เน้นขายหุ้นและshort TFEX กับ “รายย่อย”ในคราบของกองทุน ที่เน้นซื้อหุ้นเป็นหลัก
ถ้าวันใดที่รายย่อยไม่เติมเงิน หรือกองทุนตังค์หมด คงไม่ต้องเดาว่า stepต่อไปจะเป็นอย่างไร