ลุ้น! “ไบเดน-แมคคาร์ธี” ใกล้บรรลุดีล “เพดานหนี้” เลี่ยงผิดนัดชำระ
ประธานาธิบดี และประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ใกล้บรรลุข้อตกลงเจรจาการปรับ “เพดานหนี้” ก่อนจะถึงกำหนดวันผิดนัดชำระ 1 มิ.ย.นี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดการใช้จ่ายและการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะช่วยลดความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
แหล่งข่าวคนดังกล่าวยังระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะกำหนดจำนวนเงินโดยรวมที่รัฐบาลจะใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ที่สภาคองเกรสจะทำการอนุมัติเป็นรายปี (Discretionary Spending) อาทิ การจัดหาที่อยู่อาศัยและการศึกษา โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นต่างเกี่ยวกับจำนวนเงินสำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์จากจำนวนเงินรวมที่สูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดน และนายแมคคาร์ธี ได้ประชุมร่วมกันในวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) ขณะที่นายการ์เร็ต เกรฟส์ หัวหน้าตัวแทนการเจรจาจากพรรครีพับลิกันเปิดเผยว่า การพูดคุยกันของทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในช่วงค่ำของวันดังกล่าวตามเวลาสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ตัวแทนเจรจาจากพรรครีพับลิกันได้ยกเลิกแผนเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร ขณะที่ลดการใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ โดยพรรครีพับลิกันสนับสนุนให้ทำเนียบขาวกำหนดการใช้จ่ายทั้งสองรายการดังกล่าวอย่างเท่าเทียมกัน
ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน ให้สัมภาษณ์ว่า เรายังคงไม่เห็นด้วยกับภาคส่วนที่ควรปรับลดการใช้จ่าย และเชื่อว่าไม่ควรผลักภาระทั้งหมดไปให้กับชาวอเมริกันที่เป็นชนชั้นกลางและกลุ่มคนทำงาน
ทั้งนี้แม้การเจรจาดูเหมือนจะมีความคืบหน้า แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในวันใด ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า รัฐบาลอาจจะผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้
ขณะที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐเป็นเชิงลบ และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ AAA เนื่องจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
โดยการให้เครดิตพินิจเป็นเชิงลบสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกทางการเมืองที่ทำให้สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ แม้ว่าขณะนี้ใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 หรือ “X-date” ฟิทช์เชื่อว่าความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ จะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากสหรัฐล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อน X-date และผลที่ตามมาก็คือรัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามพันธกรณีทางกฎหมาย
ทั้งนี้ เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ