SPALI เสี่ยงร่วงต่อ! หลังศาลสั่งถอน EIA คอนโดศุภาลัยฯ “ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง”
ราคาหุ้น SPALI เสี่ยงร่วงต่อ หลังศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอน EIA โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง เหตุสร้างอาคารสูงเกินบังลม-แดดกระทบต่อบ้านเรือนข้างเคียง ด้าน SPALI เรียกประชุมทีมผู้บริหาร-คณะทำงาน เพื่อร่วมหาทางออกให้ลูกค้าที่จองซื้อโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค. 2566) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ปิดตลาดที่ราคา 20.20 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือคิดเป็นลดลง 2.42% มูลค่าการซื้อขาย 220.45 ล้านบาท หลังศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้เพิกถอนรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ของ SPALI เนื่องจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริหารชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) หรือคณะกรรมการ EIA ใช้อำนาจขยายระยะเวลาของการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ของ SPALI ออกไปเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
แหล่งข่าวจากบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า จากกรณีของศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอน EIA โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง บริษัทได้รับทราบเรื่องจากการพิพากษาของศาลแล้ว และได้มีการประชุมร่วมกับทีมผู้บริหารและคณะทำงาน เพื่อเตรียมชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับลูกค้าที่จองซื้อโครงการดังกล่าวให้ทราบต่อไป รวมถึงการพิจารณาถึงข้อเสนอให้กับลูกค้าเพื่อเป็นทางออกให้กับลูกค้าที่จองซื้อและไม่มีความสบายใจ เช่น การเสนอให้เปลี่ยนโครงการใหม่ที่อยู่ในเครือของ SPALI และการให้ส่วนลดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะมีการออกหนังสือชี้แจงลูกค้าให้ทราบเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ แม้ว่าทางศาลปกครองกลางจะมีคำพิพากษาออกมาแล้ว แต่ทางคณะกรรมการ EIA ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ เพื่อต่อสู้คดี โดยโครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ปัจจุบันได้หยุดการก่อสร้างตามคำสั่งศาลแล้ว หลังมีการก่อสร้างไปแล้ว 10% และมียอดจองโครงการดังกล่าวเพียง 10% ของมูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูง 18 ชั้น 3 อาคาร รวมจำนวนห้องชุด 1,302 ยูนิต บนเนื้อที่รวม 9 ไร่
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า วานนี้ได้เดินทางเข้าฟังคำพิพากษาในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนร่วมกับชาวชุมชนรัชดา ซอย 64-66 ยื่นฟ้องคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา EIA ด้านอาคาร การจัดสรรที่ดินและบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลสั่งเพิกถอนรายงาน EIA โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ของ SPALI ที่เข้ามาก่อสร้างคอนโดมิเนียมสูง และมีความยาวมากกว่า 303.5 เมตร ทำให้บังแดด-บังลมของชาวบ้านข้างเคียง และศาลได้เรียกเจ้าของโครงการดังกล่าวเข้ามาในคดีด้วย
โดยคดีนี้ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อ 26 ธ.ค. 2565 ให้การคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาให้แก่ชาวบ้านย่านรัชดาภิเษก ซอย 64-66 ชุมชนประชานุกูล เขตบางซื่อ ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อันเนื่องมาจากการก่อสร้างโครงการจะทำให้บังแดด บังลมของชาวบ้านข้างเคียง โดยศาลชี้ว่าคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เร่งรีบให้ความเห็นชอบรายงานไปทั้งที่ข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และเป็นนิมิตใหม่ของศาลปกครอง ที่ให้ความสำคัญต่อการก่อสร้างตึกสูงที่มักบังแดด-บังลม ที่จะทำให้ชาวบ้านจะต้องทนทุกข์ทรมานกันชั่วกัลปาวสาน
ขณะที่วานนี้ศาลได้มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนรายงาน EIA โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ของ SPALI เนื่องจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริหารชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) หรือคณะกรรมการ EIA ใช้อำนาจขยายระยะเวลาของการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ของ SPALI ออกไปเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น จึงไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ อีกทั้งเนื้อหาในการจัดทำรายงาน EIA ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการและข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปัญหาการบังทิศทางลมและแสงแดดที่จะมีผลกระทบต่อบ้านเรือนข้างเคียงที่ไม่อาจแก้ไขได้
“คำพิพากษาในคดีนี้เป็นเรื่องใหม่และสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวกรุงเทพและปริมณฑลที่ถูกผู้ประกอบการเรียลเอสเตท จำนวนมากเข้ามาก่อสร้างอาคารสูงในพื้นที่ชุมชนหรือบ้านข้างเคียง ทำให้ชาวบ้านที่เคยมีวิถีชีวิตที่ปกติสุข ต้องมาเดือดร้อนจากปัญหาอาคารบังลม-บังแดด ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป โดยที่ผู้ประกอบการต่างๆ ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ เมื่อขายโครงการหมดแล้ว รับผลประโยชน์ไปหมดแล้วก็ทิ้งภาระไว้ให้กับนิติบุคคลที่จะเกิดขึ้นมารับช่วงปัญหาต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว
โดยปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากโครงการก่อสร้างอาคารสูงในพื้นที่ชุมชนของ คชก.กทม. ที่มักเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนเหล่านี้เป็นหลัก ทั้งที่มีอำนาจที่จะไม่เห็นชอบโครงการอาคารสูงใด้ ดังนั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของ คชก.กทม. สมาคมฯ จะนำคำพิพากษาไปเป็นหลักฐานยื่นร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำการไต่สวน สอบสวนเอาผิด คชก.กทม. ที่ยกมือเห็นชอบโครงการดังกล่าวต่อไป
บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(1 มิ.ย.66) ว่า ประเด็นดังกล่าวมองเป็นลบจากข่าวดังกล่าว จาก 1) กรณีลูกค้าขอยกเลิกการจองทำให้ SPAL ต้องคืนเงินจองและผ่อนดาวน์ ซึ่งปัจจุบันยังมียอดจองไม่มากเพียง10% ทำให้ผลกระทบค่อนข้างจำกัดและไม่กระทบต่องบกำไรขาดทุน และ 2) จากการที่โครงการต้องยุติโครงการทำให้อาจต้องมีการบันทึกด้อยค่า โดยโครงการมูลค่า 3.2 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้างไป 10% หากประเมินจากต้นทุนการก่อสร้างไปแล้ว อาจยังมีผลกระทบต่อการด้อยคำไม่สูงมาก แต่อาจเป็นปัจจัย overhang ต่อราคาหุ้นได้
ทั้งนี้อาจมีการพิจารณาปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายหากมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น จากปัจจุบันประเมินกำไรปี 66 ที่ประเมิน 6.8 พันล้านบาท แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 24.50 บาท