ดักเก็บ 5 หุ้น “สายการบิน-โรงแรม” ลุ้นนักท่องเที่ยว Q3 พุ่ง รับโรงเรียนจีนปิดเทอม
โบรกแนะสะสมก่อนราคาขึ้น 5 หุ้น “สายการบิน-โรงแรม” คือ AAV-BA-AWC-MINT- BEYOND ลุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีนไตรมาส 3/66 พุ่งกระฉูด หลังเข้าช่วงวันหยุดเยอะ-ปิดเทอม หนุนยอดจองเที่ยวบิน-ห้องพักเพิ่มขึ้น
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ท่ามกลางความกังวลของตลาดเกี่ยวกับตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศและนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนในเดือน พ.ค. มองว่าราคาหุ้นที่พึ่งอ่อนตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นท่องเที่ยว โดยปกติ พ.ค. เป็นเดือนที่แย่ที่สุดทั้งในแง่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศและนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยตัวเลขได้ดีดกลับมา 2 อาทิตย์ติดต่อกันและน่าจะปรับตัวดีต่อเนื่องหลังประเทศไทยได้จัดสรรเที่ยวบินเพิ่มในเส้นทางไทย – จีนตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังเห็นความต้องการ Pent-up จากนักท่องเที่ยวจีนดังจะเห็นได้จากตัวเลขการท่องเที่ยวในประเทศที่สูงกว่าระดับก่อนโควิดในช่วงวันหยุดวันแรงงานที่ผ่านมา การฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศน่าจะเกิดตามตลาดในประเทศพร้อมจำนวนเที่ยวบินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศที่ 30 ล้านในปี 66 โดยมีสมมติฐานสำคัญอยู่ที่อัตราการฟื้นตัวขอนักท่องเที่ยวจีนที่จะเร่งตัวขึ้นจาก 37% ของระดับก่อนโควิดในเดือน เม.ย. เป็นมากกว่า 90% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะทำให้ได้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนรวม 5.2 ล้านในปีนี้
ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวอื่นที่ไม่ใช่ชาวจีนน่าจะฟื้นตัวจาก 81% ของระดับก่อนโควิดในเดือน เม.ย. เป็นมากกว่า 90% ในเดือน ธ.ค. ประมาณการนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศอยู่ในกรอบบนของตัวเลขที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดไว้ที่ 25-30 ล้านในปี 66
ทั้งนี้ยังคงให้น้ำหนักกลุ่มการท่องเที่ยวมากกว่าตลาด โดยชอบกลุ่มสายการบิน ได้แก่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA จากการแข่งขันในตลาดในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ แนวโน้ม Load Factor และราคาค่าบัตรโดยสารขาขึ้น รวมถึงราคาค่าเชื้อเพลิงอากาศยานที่ลดลงจาก USD106 ในไตรมาส 1/66 เป็น USD88 ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน
สำหรับในกลุ่มโรงแรม ชอบบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เนื่องจากโรงแรมส่วนมากอยู่ในตลาดโรงแรมหรูที่มีราคาสูงซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่า ADR ที่เพิ่มขึ้น โดยราคาหุ้นอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนโควิดอยู่ถึง 19% ซึ่งไม่สมเหตุสมผลเนื่องจากกำไรปกติของ AWC ได้ปรับขึ้นสูงกว่าระดับก่อนโควิดไปแล้วพร้อมมูลค่าสินทรัพย์ด าเนินงานที่เพิ่มขึ้น 37% จากปี 63
นอกจากนี้ยังชอบบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ในระยะสั้นเนื่องจาก NH Hotel น่าจะพลิกมารายงานกำไรอีกครั้งใน ไตรมาส 2/66 พร้อมแนวโน้ม RevPAR ที่อยู่ในเกณฑ์ดีโดยเพิ่มขึ้น 32% จากระดับก่อนโควิดในเดือน เม.ย. Wildcard pick เป็นบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND จากการประเมินมูลค่าที่อยู่ในระดับต่ำที่ 0.7 เท่า ของค่า P/BV ปี 67และ 18 เท่า ของค่า P/E ปี 67 นอกจากนี้โรงแรมของบริษัทฯ ยังมีสถานะที่ดีในกลุ่มโรงแรมหรู