STARK อ้างร้องทุกข์ “DSI-ปอศ.” ปมทุจริต “อดีตผู้บริหาร” อยู่ขั้นตอนตรวจสอบ
STARK อ้างร้องทุกข์ “DSI-ปอศ.” ปมทุจริตของกรรมการผู้จัดการ เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด โดยบริษัทจึงแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ตามความเห็นของ ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป
นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับคณะผู้บริหารของ STARK ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทางบริษัทจึงขอเรียนชี้แจง
ทั้งนี้หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบจากหนังสือของผู้สอบบัญชีรายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ว่าผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการ และหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามนัยมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2565 และประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้มีหนังสือแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. ถึงการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีและการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ( Special Audit) รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่อ้างถึง 1.
ต่อมาบริษัทจึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด
รวมถึงบริษัทได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) โดยบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทผู้ถือหุ้นตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท
โดยบริษัทขอเรียนว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการดำเนินการขั้นต้น บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่าจะสามารถนาตัวผู้กระทาความผิดมาดำเนินคดีลงโทษได้ตามกฎหมายตลอดจนสามารถติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกกระทำโดยทุจริตจากผู้กระทำความผิดคืนกลับให้แก่บริษัทเพื่อเป็นการเยียวยาบรรเทาความเสียหายที่บริษัทได้รับ
อนึ่งเนื่องจากขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษและกองบังคับการปราบปรามการกระทาความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตารวจสอบสวนกลางบริษัทจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยรายละเอียด ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทาความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป