BEC แย้มไตรมาส 2 สดใส รายได้-เรตติ้งเริ่มฟื้นตัว

BEC ประเมินผลงานไตรมาส 2 คาดโตจากไตรมาสก่อนเกิน 10% พร้อมมองว่ารายได้และเรตติ้งอยู่ในทิศทางที่ดี และหากครึ่งปีหลังยังทำรายได้ดี ก็จะส่งผลให้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้


นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยทิศทางอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า ภาพรวมมีแนวโน้มดีกว่าปีที่แล้ว ที่มีปัจจัยลบเข้ามากดดัน ทั้งเงินเฟ้อ กำลังซื้อหดตัว กดดันเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรม แต่ในปีนี้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น กิจกรรมต่าง ๆ สามารถทำได้ปกติ ถือว่ามีปัจจัยบวกเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจ และการฟอร์มรัฐบาล ที่ยังมีความไม่แน่นอน

รวมถึงนโยบายการควบคุมราคาสินค้าอาจกดดันเม็ดเงินโฆษณาในภาพรวมสำหรับแนวโน้มรายได้ของช่อง 3 ปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้เป็นเลข 2 หลัก (Double Digit) หรืออย่างน้อยปลายเลขหลักเดียว (High Single Digit) จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,115 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การกลับมาแพร่ระบาดของโควิด19 และ สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหากการฟอร์มรัฐบาลทำได้ถูกใจคน เกิดความเชื่อมั่น ก็จะส่งผลดีต่อการตัดสินใจใช้เม็ดเงินโฆษณาของเจ้าของสินค้า และส่งผลดีต่อเนื่องกับรายได้อุตสาหกรรมโทรทัศน์อย่างไรก็ตามตัวเลขกำไรของช่อง 3 ปีนี้อาจเติบโตได้น้อยกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 607 ล้านบาท เป็นผลจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่ลดลง

อย่างไรก็ตามเมื่อดูในอุตสาหกรรมเดียวกันก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด ที่ปกติไตรมาสแรกจะมีผลประกอบการที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่นๆ อยู่แล้ว ประกอบกับช่อง 3 มีการเลื่อนออกอากาศละครเรือธงของช่อง อย่าง “หมอหลวง” ที่ต้องเลื่อนออกอากาศมาอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม เนื่องจากมีการนำละครดังกล่าวลงในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ตามกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform ทำให้การรับรู้รายได้ มาอยู่ในไตรมาส 2 แทน

ส่วนทิศทางรายได้ในไตรมาส 2 มองว่า หากเทียบไตรมาสต่อไตรมาส จะเห็นผลในทางบวก คาดว่าจะเติบโตจากไตรมาสแรกเป็นเลข 2 หลัก เพราะความสำเร็จของละคร “หมอหลวง” ที่ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในรอบ 3 ปี ทั้งในเชิงรายได้และเรตติ้ง ทำให้คาดว่า หากในช่วงครึ่งปีหลัง มีละครที่ทำรายได้แบบนี้ ซึ่งมีอีกหลายเรื่อง เช่น เกมรักทรยศ และ พรหมลิขิต ที่จะออกอากาศช่วงต้นเดือน ต.ค. ประสบความสำเร็จได้ ก็น่าจะสามารถสร้างรายได้มาชดเชยสิ่งที่หายไปในไตรมาส 1-2 ได้

ส่วนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ทางช่อง 3 ก็มีรายการ “เปลี่ยนใหม่ หรือ ไปต่อ” ที่ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งกระแสและรายได้เช่นกัน โดยสัดส่วนรายได้ของรายการข่าวไตรมาสแรกปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 36% เพิ่มจากปีที่แล้ว 27-28% ส่วนละคร สัดส่วนเหลือที่ 51% เมื่อรวมรายได้จาก ข่าว-ละคร รวมกันก็จะมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 80% ส่วนการมีรายการข่าวดังของช่อง เช่น เรื่องเล่าเช้านี้ หรือ โหนกระแส มีการขยายเวลาออกอากาศไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ มองว่ามีส่วนทำให้แบรนด์ของช่อง 3 มีความชัดเจนขึ้นและรายการข่าวสามารถนำเสนอเนื้อหาได้มากขึ้น

โดยเบื้องต้น ใน 5 ปี ข้างหน้า บริษัทฯ วางเป้าขยายสัดส่วนรายได้จากดิจิทัลและการขายคอนเทนต์ไปต่างประเทศอยู่ที่ 25% และรายได้จากทีวี 70% และรายได้อื่น ๆ อีก 5%สำหรับทิศทางของธุรกิจโทรทัศน์ในอนาคต ที่ขณะนี้เหลืออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์อีก 5 ปีกว่า ๆ ช่อง 3 จะเข้าร่วมประมูลต่อใบอนุญาตหรือไม่

ด้าน นายสุรินทร์ มองว่า หากอีก 5 ปีข้างหน้ายังมีความจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการ ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ขณะเดียวกันสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ทั้งในเชิงเทคโนโลยี และพฤติกรรมการรับชมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ก็จะต้องพิจารณาประกอบด้วยอย่างไรก็ตาม บีอีซี เวิลด์ ยังคงเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ เป็น Total Entertainment Company ภายใต้กลยุทธ์ Single Content Multiple Platform คือการลงทุนผลิตคอนเทนต์เพียงครั้งเดียว แต่สามารถหารายได้ได้หลายแพลตฟอร์มและหลายช่องทาง

รวมถึงส่งขายในต่างประเทศ โดยมีการใช้งบผลิตละครปีละ 2,000 ล้านบาท ผลิตละครได้ 25 เรื่อง ตั้งเป้าส่งขายต่างประเทศ 2,500 ชั่วโมง 40 เรื่อง เป็นการเปิดตลาดใหม่และสร้างรายได้เพิ่มทั้งนี้ปัจจุบัน ช่อง 3 ผลิตละครโดยใช้บทละครจาก 3 แหล่งหลัก คือ บทประพันธ์นวนิยายดั้งเดิม ,พัฒนานักเขียนบทรุ่นใหม่ สร้างคอนเทนต์ใหม่ และซื้อบทละครจากต่างประเทศ เช่น เรื่องเกมรักทรยศ ซึ่งเป็นซีรีส์ดังจากอังกฤษ มาผลิตในเวอร์ชันไทย

โดยมองว่าการซื้อบทละครต่างประเทศมาผลิตจะเป็นโอกาสให้การวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น โดยจากนี้จะมีการปรับแผนงานผลิตคอนเทนต์ละครให้อยู่ภายใต้โมเดล IMC คอนเทนต์ คือ หารายได้จากการลงทุนผลิตละครตั้งแต่ต้นน้ำ ดึงเจ้าของสินค้ามาวางแผนไทอินในละครร่วมกันตั้งแต่เริ่มผลิต ซึ่งโมเดลนี้จะต่อยอดรายได้ไปส่วนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เพลง, ดูแลศิลปิน และการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า เป็นต้น

Back to top button