สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 มิ.ย. 2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,066.33 จุด เพิ่มขึ้น 189.55 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,338.93 จุด เพิ่มขึ้น 40.07 จุด หรือ +0.93% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,461.92 จุด พุ่งขึ้น 202.78 จุด หรือ +1.53%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) นำโดยดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีซึ่งได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอาดิดาส ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.72 จุด หรือ +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,250.35 จุด เพิ่มขึ้น 37.21 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,097.87 จุด เพิ่มขึ้น 148.03 จุด หรือ +0.93% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,570.69 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด หรือ +0.11%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) โดยหุ้นโครดา อินเทอร์เนชันแนลได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ดีดตัวขึ้น และหุ้นโอคาโดปรับตัวขึ้นหลังโบรกเกอร์ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,570.69 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด หรือ +0.11%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายลดความเสี่ยง ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 7.50 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,969.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 35.10 เซนต์ หรือ 1.44% ปิดที่ 24.059 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17.50 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 995.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 36.30 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,341.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงในประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ดิ่งลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 67.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.95 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ระดับ 103.6455

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 139.5750 เยน จากระดับ 139.4000 เยนในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9096 ฟรังก์ จากระดับ 0.9031 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ  1.3371 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3351 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8117 โครนา จากระดับ 10.8235 โครนา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0756 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0749 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2505 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2575 ดอลลาร์