ก.ล.ต. ขีดเส้นตาย “STARK” 7 วัน ปม LEONI ฟ้อง 2.2 หมื่นล้าน

ก.ล.ต. ขีดเส้นตาย STARK 7 วัน นับแต่วันที่ 13 มิ.ย.66 ชี้แจงปม LEONI เรียกค่าเสียหาย 2.2 หมื่นล้าน หลังล้มดีลซื้อหุ้น


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า กลต.สั่งการให้บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ชี้แจงข้อเท็จจริงและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH ได้ยื่นเสนอข้อพิพาทเกี่ยวกับการที่ STARK ใช้สิทธิเพิกถอนสัญญาซื้อขายหุ้น LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการแห่งประเทศเยอรมนี ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2566 และให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย

สืบเนื่องจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ STARK เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ได้อนุมัติให้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc จาก LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH มูลค่าซื้อขายไม่เกิน 560 ล้านยูโร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 STARK ได้แจ้งข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงในทางลบหลายประการ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ STARK จึงตัดสินใจเพิกถอนสัญญาซื้อขายหุ้นและธุรกรรมซื้อขายหุ้นอันเป็นการใช้สิทธิของบริษัทในฐานะผู้ซื้อภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นและสิทธิตามกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH จึงได้ยื่นเสนอข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้สิทธิเพิกถอนสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการของประเทศเยอรมนี มูลค่ารวม 608 ล้านยูโร หรือประมาณ 22,619 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากประเด็นข้อพิพาทข้างต้นอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุน  ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ STARK ชี้แจงข้อเท็จจริงและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2566 และเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศฯ พร้อมกันด้วย

นอกจากนี้ จากการที่ได้มีผู้ร้องเรียนถึง ก.ล.ต. ในประเด็นเกี่ยวกับการจองซื้อหุ้นกู้ของ STARK ซึ่งเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ (II&HNW) เท่านั้น นั้น ก.ล.ต. ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ถูกร้องเรียนชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการเสนอขายและจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าว รวมทั้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาแล้ว

Back to top button