TEGH เซ็น MOU ขายก๊าซชีวภาพ GGC นาน 7 ปี รับเงินกว่าพันล้าน
TEGH ส่งบริษัทย่อย “ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์” ลงนาม MOU ขายก๊าซชีวภาพให้ GGC สัญญายาว 7 ปี มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ต่อยอด BCG Model สร้างการเติบโตมั่นคง
นายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด หรือ TEBP ซึ่งเป็นบริษัทฯ ย่อยได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เพื่อการทำสัญญาซื้อขายก๊าซชีวภาพ
โดย GGC มีความประสงค์ที่จะซื้อก๊าซชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิต โดยมีปริมาณรวมในเบื้องต้นสูงสุด 21 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ระยะเวลาทั้งสิ้น 7 ปี ซึ่งประมาณการรายได้ที่ TEBP จะได้รับจากการขายก๊าซชีวภาพภายใต้สัญญาฉบับนี้ อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการเสริมเสถียรภาพรายได้ของ TEBP ที่มีแผนจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใน 3 ปีข้างหน้า
“ขอขอบคุณ GGC ที่ร่วมกันสร้างฝันในการเป็น BCG Model และเป็นต้นแบบของประเทศไทยต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกที่จัดตั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น ที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี การร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ภาพของ BCG Model ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่เราจะได้เห็น Biodiesel ที่ผลิตจาก Green Energy ที่น่าจะเป็นแห่งแรกของโลก ซึ่งเป็น Supply Chain ที่สำคัญของปาล์มน้ำมันครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โครงการนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ TEGH และ GGC ในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจต่อไป ” นายเฉลิม กล่าว
ขณะนี้โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 พร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในไตรมาส 2/2566 ส่วนเฟสที่ 2 ตามแผนจะ COD ในปี 2567 โดยทั้งสองโครงการฯ นี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่วนขยายนี้มีลูกค้ารองรับเกือบทั้งหมดแล้ว และมีอีกหลายรายที่ให้ความสนใจและอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งเตรียมวางแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มต่อไปในอนาคต
ด้านนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการสร้างปรากฏการณ์ที่ดี ที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุเป้าหมายเดียวกัน คือ การดำเนินธุรกิจตามหลัก BCG Model ที่จะช่วยส่งเสริมและเป็นการยืนยันเจตนารมย์ว่า ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการใช้ Green Energy และ GGC เองก็มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อย 20% ในปี 2030 ซึ่งโครงการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของเรา และเราก็เชื่อว่า ไทยอีสเทิร์น ก็มีเจตจำนงเดียวกันที่จะช่วยลดปัญหาโลกร้อน และการลงนามในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับสองบริษัทที่อยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น ที่ อ.หนองใหญ่ เท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมโดยรอบ และท้ายที่สุด ก็เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และโลกของเรา