โบรกชี้ SET สัปดาห์นี้ไร้ปัจจัยใหม่ แนะเก็บ 15 หุ้น “โดเมสติก”

“บล.พาย” ประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,575 จุด ไร้ปัจจัยใหม่ แนะเก็บ 15 หุ้น “โดเมสติก” ประกอบ BJC, CPALL, HMPRO, BBL, KBANK, KTB, SCB, AOT, CENTEL, ERW, MINT, MTC, TIDLOR, BDMS และ PTTEP


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,575 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นทยอยลดน้ำหนักการลงทุน หลังตลาดหุ้นปรับขึ้นมารับปัจจัยบวกด้านดอกเบี้ยไปพอสมควร ส่วนหุ้น Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) ธนาคาร (BBL, KBANK, KTB, SCB) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT) Finance (MTC, TIDLOR) โรงพยาบาล (BDMS) น้ำมัน (PTTEP)

ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” BDMS ราคาเป้าหมาย 34 บาท มองว่า BDMS จะได้รับปัจจัยเชิงบวกจากเปิดประเทศ และแนวโน้มการกลับมาของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติถึง 29% ของรายได้ทั้งหมด โดยยอดนัดหมายลูกค้าต่างชาติใน เม.ย.23 เพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 25,100 ราย (คิดเป็น CLMV 42%, เอเชียกลาง 12%, ยุโรป 11% และอื่นๆ 35%) โดยตัวแรกดังกล่าวเติบโตขึ้น 67% จากเดือน ก.พ.23 ที่มีจำนวนยอดนัดหมายเพียง 15,000 ราย

รวมทั้งแนะนำ “ถือ” หุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย 162 บาท แม้ยังมีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย แต่มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันมี downside risk ไม่มาก เพราะมีมูลค่าที่ไม่แพงอยู่แล้ว ขณะที่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าดึงดูดที่ 5%

ทั้งนี้ ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 0.3% เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 1.2% เนื่องจากคาดถึงอุปสงค์ที่จะสูงขึ้นจากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นอกจากนั้นสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก U of Michigan พบว่าอยู่ที่ 63.9 ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 60.1 ถ้อยแถลงภายในพบว่าสาเหตุหลักมาจากผู้บริโภคคลายกังวลกับเงินเฟ้อและปัญหาเพดานหนี้ก็ได้ถูกแก้ไข อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังกังวลกับเศรษฐกิจในปีหน้าจากรายได้ที่ยังอ่อนตัวลง โดยสัปดาห์นี้คาดบรรยากาศการลงทุนจะทรงตัวหลังสัปดาห์ก่อนหน้าตลาดหุ้นทั่วโลกรับรู้ปัจจัยสำคัญอย่างการประชุม FED ไปแล้ว

ขณะที่สัปดาห์นี้ปัจจัยต่างๆ ก็มิได้มีปัจจัยใหญ่ๆ ที่มีนัยสำคัญ โดยวันอังคารจะมีการรายงานใบขออนุญาตก่อสร้าง และยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.43 ล้านใบอนุญาต และ 1.4 ล้านหลังคาเรือน ส่วนวันพุธประธานเฟด มีกำหนดแถลงก็เชื่อว่านักลงทุนจะจับตาเกี่ยวกับสัญญาณดอกเบี้ยเพื่อมองหาสัญญาณคงดอกเบี้ย ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 74.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%

สำหรับการประชุมเดือน ก.ค. หากมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการคงดอกเบี้ยก็มองว่าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น ถัดมาจะเป็นผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.56 แสนราย ซึ่งในวันเดียวกันก็จะมีการรายงานยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.25 ล้านหลังคาเรือน

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมาหากบ่งชี้ในทางที่ย่ำแย่กับภาวะเศรษฐกิจก็เชื่อว่าตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก จากการคลายกังวลภาวะดอกเบี้ย สำหรับปัจจัยในประเทศคาดการณ์ว่าจะมีการรายงานมูลค่าส่งออกไทยประจำเดือน พ.ค. Bloomberg Consensus ประเมินมูลค่าส่งออกจะหดตัว 7.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน และนำเข้า หดตัว 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน พร้อมประเมินดุลการค้าขาดดุล 558 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากขาดดุลมากกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าต่อเนื่องและเป็นลบกับกระแสเงินทุนต่างชาติ

Back to top button