“กรภัทร” แนะเก็งกำไร “หุ้นอิเล็กฯ” รับจีนจ่อลดภาษีรถยนต์ EV Car ต่อ 4 ปี

“กรภัทร วรเชษฐ์” แนะเก็งกำไรหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รับอานิสงส์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านการลดหย่อนภาษี รถยนต์ EV Car ต่อเนื่อง 4 ปีข้างหน้า ปีละ 5 แสนล้านหยวน โดยตีมูลค่าเป็น 0.4% ของ GDP สะท้อนถึงว่าอุตสาหกรรมกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้ากำลังจะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (22 มิ.ย. 66) ว่าตลาดวันนี้มีปัจจัยบวกที่ตลาดนั้นคาดหวังไว้ในประเด็นที่เกื้อหนุนตลาดนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือประเด็นที่จีนกระตุ้นเศรษฐกิจในปีที่แล้ว ผ่านมาตรการลดหย่อนภาษี โดยกระตุ้นยอดรถยนต์ EV Car ซึ่งเพิ่งหมดไปในช่วงต้นปี 66 ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงสร้าง demand ของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นแผ่วลง รวมถึงการส่งออกก็แย่ลง

จากวานนี้ จีนมีการออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนครั้งใหญ่ ซึ่งคือการกระตุ้นการลดหย่อนภาษี รถยนต์ EV Car ต่อเนื่อง 4 ปีข้างหน้า ปีละ 5 แสนล้านหยวน นับว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก โดยตีมูลค่าเป็น 0.4% ของ GDP สะท้อนถึงว่าอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับระบบนิเวศ ของกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้ากำลังจะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ

โดยหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไทยที่มีสัดส่วนรายได้ที่เชื่อมโยงกับจีนนับว่าได้ประโยชน์ มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นและประคองตลาดได้ เช่น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA สัดส่วนรายได้ประมาณ 12%, บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE สัดส่วนรายได้ออโต้ 75% สัดส่วนรายได้จากจีนประมาณ 10%, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA สัดส่วนรายได้ประมาณ 6-7% นอกจากนี้อุตสาหกรรมยางพาราก็มองว่าได้ประโยชน์จากจีนเช่นเดียวกัน

ส่วนในประเด็น นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายที่ 2% ปฏิกิริยาของตลาดที่เห็นคือค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนค่า ชัดเจนว่าตลาดไม่เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้ง ตลาดเชื่อมากกว่าดอกเบี้ยนโยบายเป็นปลาย second แล้วจริง ๆ มองว่าพอค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดหุ้นเอเชียจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง

ทั้งนี้ผลดังกล่าวข้างต้นทำให้ประเมินว่า SET เคลื่อนไหวในวันนี้ โดยให้กรอบแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,537-1,545 จุด แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,512-1,507 จุด

สำหรับหุ้นที่น่าเก็งกำไรในวันนี้ คือ หุ้นพลังงาน มองว่ามีโอกาสรีบาวด์ เพราะฟื้นตัวขึ้นมารับกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า, หุ้นโภคภัณฑ์ และหุ้นส่งออก นับว่าเป็นกลุ่มเด่น เช่น กฟผ., ปตท., กลุ่มโรงกลั่น เป็นส่วนที่ประคองตลาดได้ ส่วนหุ้นที่ชนะการประมูล green hydrogen ที่โอมาน ในเชิงของการเก็งกำไรระยะสั้น ๆ มองว่าเป็นปัจจัยบวกระยะสั้น

ขณะที่ปัจจัยด้านการเมืองยังต้องคอยจับตาจนถึงการประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา ว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะวานนี้มีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาล ด้านพรรคเพื่อไทยไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ที่จะเลือกให้ที่นั่งตัวแทนสภากับทางก้าวไกล ต้องรอดูว่าพรรคที่ทำงานร่วมกันเค้าเดินหน้ากันไปในลักษณะไหน แต่โดยรวมนั้น รอแค่ความชัดเจนเกิดขึ้นเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ตลาดยังไม่เชื่อมั่นมาก นักลงทุนก็ยังมองไม่เห็นถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่ามีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด จึงส่งผลให้หุ้น domestic ทั้งค้าปลีกและธนาคารนั้นดูบกพร่องไปในระยะสั้น

Back to top button