คัด 4 หุ้นตัวท็อป! รับอานิสงส์ยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนแรก เฉียด 8 แสนคัน

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ภายหลังส.อ.ท.โชว์ตัวเลขยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.66 ออกมาโตดี อีกทั้งเพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนได้พิจารณาลงทุนในช่วงนี้ โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลมาจากบทวิเคราะห์โบรกเกอร์ชั้นนำของไทย อาทิ บล.ดาโอ ,บล.กรุงศรี และบล. ฟินันเซีย ไซรัส ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลการลงทุนไว้ดังนี้

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์(23 มิ.ย.66) ว่า ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.66 อยู่ที่ 1.5 แสนคัน เพิ่มขึ้น 16% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 28% เทียบเดือนก่อนหน้า เป็นการฟื้นตัวจากฐานต่ำ โดยได้ผลบวกจากยอดส่งออกที่ดีขึ้นเป็น 8.6 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% เทียบเดือนก่อนหน้า จากการส่งออกที่ดีขึ้นเกือบทุกตลาด

ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 6.5 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น0.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เพิ่มขึ้น9% เทียบเดือนก่อนหน้า จากรถยนต์นั่งที่เติบโตดีจากฐานต่ำปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิป ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนแรกปี 66 อยู่ที่ 7.8 แสนคัน เพิ่มขึ้น 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านรถยนต์นั่ง BEV มียอดจดทะเบียนใหม่เดือน พ.ค.66 ยังคงเติบโตโดดเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบเดือนก่อนหน้า โดยมียอดจดทะเบียนใหม่อยู่ที่ 5,557 คัน เพิ่มขึ้น 992% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 45% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยค่ายรถยนต์ BYD มีสัดส่วนมากสุดที่ 36% ส่วน TESLA อันดับ 2 อยู่ที่ 19% ตามมาด้วย MG 18% และ NETA 12% (Fig.6,7) รวม 5 5 เดือนแรกปี 66 รถยนต์นั่ง BEV มียอดจดทะเบียนใหม่จำนวน 2.39 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 1,021% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้มีมุมมองเป็นกลาง จากยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.66 ที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามคาด สำหรับยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนแรกปี 66 จะคิดเป็น 40% จากทั้งปี66 ที่เราประเมินที่ 1.95 ล้านคัน เพิ่มขึ้น4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเราประเมินจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายจากยอดส่งออกรถยนต์ที่จะยังมีการเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ช่วยชดเชยยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว

สำหรับกลุ่มยานยนต์(AUTOMOTIVE & EV) ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “Overweight” จากยอดผลิตรถยนต์ที่ยังเติบโตดี โดยได้อานิสงส์จากยอดส่งออกที่ดีขึ้น, ธุรกิจ EV ที่ยังสดใส และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (CEV) ที่จะส่งมอบได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่ม Automotive ปรับตัว outperform SET เพิ่มขึ้น 5% ในช่วง 3 เดือน จากยอดผลิตรถยนต์ที่ยังเติบโตได้ดี โดยแนะนำซื้อหุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX, บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT และบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT

สำหรับหุ้น top pick ได้แก่ NYT แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท อิง 2066E PER ที่ 18.0 เท่า โดย NYT ทำธุรกิจท่าเรือส่งออกและนำเข้ารถยนต์ จะได้ประโยชน์มากสุดจากยอดส่งออกรถยนต์ที่ยังเติบโตได้ดี รวมถึงยอดนำเข้ารถยนต์ยังเติบโตโดดเด่น ตามยอดจดทะเบียนรถ EV ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับ NYT ประเมินกำไรปี 66  ที่ 351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์(23 มิ.ย.66) ว่า กลุ่มยานยนต์(AUTO) ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์ของไทยเดือน พ.ค.มีจำนวน 150,532 คัน เพิ่มขึ้น 27.96%เทียบเดือนก่อนหน้า และ 16.48%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 9.34%เทียบเดือนก่อนหน้า และ 0.55% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดส่งออก 86,358 คัน เพิ่มขึ้น 8.03%เทียบเดือนก่อนหน้า และ 12.25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้มองเป็นบวกต่อรายได้ กำไรและ Sentiment การลงทุนของกลุ่ม Auto ได้แก่ AH,SAT,NYT โดย AH แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 41 บาท  คิดเป็นอัพไซด์ประมาณ 27% ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับลง 15% ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนข่าว ISUZU ย้ายฐานการผลิตไปแล้ว ส่วนงบไตรมาส 2/66 คาดยังโตดีโดยเฉพาะเมื่อเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนจากยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. และ พ.ค. ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  ส่งออกรถยนต์เดือน พ.ค. สูงกว่าคาดเล็กน้อย ส่งออกรถยนต์ พ.ค. มีจำนวน 86,358 คัน เพิ่มขึ้น 8% เทียบเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนฟื้นตัวจากฐานต่ำของปีก่อนจากการขาดแคลนซิปและจีนล็อกดาวน์ ส่วนยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 9.3% เทียบเดือนก่อนหน้า จากฐานที่ต่ำ และเพิ่มขึ้น 0.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับภาพรวมในช่วง 5 เดือนแรกปี 2566 มียอดขายรถยนต์ในประเทศ ลดลง 4.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดผลิตรวม 5 เดือนแรกปี 66 เพิ่มขึ้น 6.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านส.อ.ท. ยังคงตั้งเป้ายอดผลิต 1.95 ล้านคัน ในปีนี้ไว้เท่าเดิม โดยคาดมียอดส่งออก 1.05 ล้านคัน เพราะคู่ค้ายังเติบโตดี และยอดขายในประเทศ 9 แสนค้น โดยหวังเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะเติบโตดี