IMH รีแบรนด์ “รพ.มเหสักข์” สู่ “IMH สีลม” เจาะต่างชาติ-ธุรกิจ เพิ่มรายได้กว่า 400 ล้าน
IMH รีแบรนด์ “โรงพยาบาลมเหสักข์” สู่ “IMH สีลม” เจาะกลุ่มคนไข้เงินสดต่างชาติ -ธุรกิจ เพิ่มรายได้กว่า 400 ล้านบาท/ปี มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์คาดเปิด “IMH แบริ่ง (เฟส 1)” ปี 68
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า IMH เดินเกมรุกปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อรองรับแผนการขยายกิจการโรงพยาบาลของกลุ่ม IMH ในอนาคต ล่าสุด IMH ประกาศแจ้งเปลี่ยนชื่อโรงพยาบาลมเหสักข์ เป็น “โรงพยาบาล IMH สีลม” (IMH Silom Hospital) ซึ่งเน้นเจาะตลาดคนไข้เงินสดต่างชาติ และกลุ่ม corporate ให้สอดรับกับ location ของ โรงพยาบาล ซึ่งมีศักยภาพสูง
สำหรับการเปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาล IMH สีลม (IMH Silom Hospital) ในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นโรงพยาบาลในเครือของกลุ่ม IMH เพื่อการก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีการให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร และยังรองรับแผนการขยายกิจการโรงพยาบาล ของกลุ่ม IMH ในอนาคต
ขณะที่ “โรงพยาบาลอินเตอร์เมดฯ ” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านอาชีวะเวชศาสตร์ จะเน้นด้าน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่, Telemed และ Central Lab สามารถให้บริการลูกค้าบริษัท / โรงงาน ได้ทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ จรดภาคใต้ ผ่านรถหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่มีรองรับการให้บริการกว่า 14 คัน พร้อมทั้งเน้นการขยาย Market Shareใหม่ๆ ผ่านการขยายฐานลูกค้าจาก โรงพยาบาลในเครือ IMH ทั้งหมด
ส่วน “โรงพยาบาล IMH ธนบุรี” ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลในเครือ จะรับผิดชอบคนไข้พื้นที่ฝั่งธนบุรี มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มผู้ป่วยสิทธิ์รัฐ พร้อมทั้งตั้งเป้าเป็นผู้นำในการให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐ อาทิ สปสช. (บัตรทอง), ประกันสังคม และคนไข้เงินสด นอกจากนี้ “โรงพยาบาล IMH ธนบุรี” ยังรับผิดชอบในการขยายเครือข่ายคลินิกภายใต้ “คลินิกเวชกรรม IMH” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการคนไข้ปฐมภูมิ และคนไข้เงินสด ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมขยายธุรกิจ และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อก้าวสู่การเป็นเป็นผู้นำในกลุ่มโรงพยาบาลที่ให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ดร.สิทธิวัตน์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า การก่อสร้าง โรงพยาบาล IMH แบริ่ง (เฟส 1) ใหม่จำนวน 300 เตียง บนพื้นที่ทำเลทองติด BTS แบริ่งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการออกแบบ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เพื่อรองรับการให้บริการในกลุ่มลูกค้าคนไทยสิทธิชำระเงินสดระดับกลาง-บน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพใต้ – สมุทรปราการ ทั้งนี้หากโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วเสร็จจะเป็นสอดรับกับแผนการสร้างการเติบโตของบริษัทฯที่จะเกิดขึ้นในอนาคต