FTI ผนึกพันธมิตร “จีน” ตั้ง 3 บริษัทย่อย เสริมแกร่งธุรกิจ “เครื่องกรองน้ำ”
FTI จับมือพันธมิตร “จีน” เพื่อจัดตั้ง 3 บริษัทย่อย ต่อยอดความเชี่ยวชาญในการผลิตและประกอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับระบบกรองน้ำ
ดร. วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.66 ได้มีมติให้บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้กฎหมายประเทศไทย 3 บริษัท โดยร่วมกับพันธมิตร 3 ราย ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและประกอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับระบบกรองน้ำ ประกอบด้วย
บริษัทที่ 1 ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง เพื่อผลิตและประกอบไส้กรองระบบกรองน้ำและจัดจำหน่ายทั้งสำหรับตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้านโครงสร้างการถือหุ้น FTI ร้อยละ 51 และ ตัวแทนจาก Shanghai Lyuden Environment & Technology Co.,Ltd. ร้อยละ 49
บริษัทที่ 2 ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อผลิตและประกอบหม้อแปลง (Transformer) สำหรับระบบกรองน้ำ และจัดจำหน่ายทั้งสำหรับตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้านโครงสร้างการถือหุ้น FTI ร้อยละ 51 และตัวแทนจาก Jiangyin Runyang Electronic Co., Ltd. ร้อยละ 49
บริษัทที่ 3 ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง เพื่อผลิตและประกอบอุปกรณ์ Booster pump สำหรับระบบกรองน้ำ และจัดจำหน่ายทั้งสำหรับตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้านโครงสร้างการถือหุ้น FTI ร้อยละ 51 และตัวแทนจาก Ningbo Aceboom Electric Motor Co., Ltd. ร้อยละ 49
โดยการจัดตั้งบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัท FTI จะใช้แหล่งเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ในขณะที่พันธมิตรทั้ง 3 ราย ตกลงแต่งตั้งตัวแทนผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วน 49% ตามข้อตกลงในการร่วมทุนเพื่อความรวดเร็วในการจัดตั้งบริษัทย่อยเนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมีกฎหมายและระเบียบที่เข้มงวดสำหรับกระบวนการทางการเงินในการโอนเงินเข้าหรือออกนอกประเทศ
ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว จะช่วยสร้างประโยชน์แก่ FTI จากต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง, การเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และเพิ่มการเติบโตในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้เมื่อบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัทได้จัดตั้งขึ้นแล้ว บริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป