“เศรษฐา-ชลน่าน” ปัดปมข่าวลือยก ปธ.สภา ยันไม่มีแผนซ้อน
“เศรษฐา-ชลน่าน” ปัดข่าวยอมถอยประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พรรคก้าวไกล แลกแกนนำตั้งรัฐบาล ยันไม่มีแผนซ้อน มีแค่แผนเดียวคือสนับสนุนพรรคแกนนำและสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกฯ เท่านั้น ย้ำอีกครั้งว่ายึดมั่นในฉันทามติของประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย ยอมถอยเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พรรคก้าวไกล โดยมีเงื่อนไขหาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี จะให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแทนว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเลย แต่เชื่อว่าในส่วนนี้จะจบลงได้ด้วยดี เพราะเรายึดมั่นในหลักการที่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันไว้และทำงานด้วยกัน
ทั้งนี้ กระแสข่าวที่ระบุถึงพรรคเพื่อไทยจะเป็นนายกรัฐมนตรี ในกรณีพรรคก้าวไกลไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเพียงแหล่งข่าว คงต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทย โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคในฐานะคณะเจรจาจะดีกว่าเพราะตนไม่ได้อยู่ในกระบวนการเจรจาด้วย ส่วนที่ตนหารือกับพรรคก้าวไกลในประเด็นเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาได้ไปประชุมร่วมกับพรรคก้าวไกลก็เป็นในเชิงสร้างสรรค์
เมื่อถามอีกว่า หากนายพิธา สะดุดไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน อีกทั้งขณะนี้เราต้องพยายามให้นายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากกว่า
“ผมไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย เอาทีละขั้นตอนดีกว่า วันนี้ต้องเลือกประธานสภา ให้ไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่ายก่อนและไปเลือกนายกรัฐมนตรี ให้คุณพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็หวังว่าจะไม่มีอุปสรรค” นายเศรษฐา กล่าว
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในกรณีเดียวกันว่า ไม่รู้ที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว ซึ่งเมื่อวานนี้ตนอยู่กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ก็ยังพูดคุยถึงแนวทางต่างๆ ที่เราจะไปพูดคุยเจรจากับพรรคก้าวไกล รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรคในวันที่ 3 กรกฎาคม ก่อนที่จะมีการโหวตประธานสภาในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566
ผมแปลกใจกับข่าวที่ออกมา ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของการปล่อยข่าวมากกว่า ยิ่งปล่อยข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ผมก็พูดมาตลอดว่าเราไม่มีแผน 2 และแผน 3 เราเคารพพรรคแกนนำ เรามีแผนเดียวคือสนับสนุนพรรคแกนนำและสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกฯ เท่านั้น
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตนคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความสิ่งที่ตนสื่อสารออกไปผิดที่ตนให้สัมภาษณ์เปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ ส่วนการคลุมถุงชนมันไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รัก ความหมายของตนแค่ต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชน ว่าเขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้นเราเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคิดอย่างอื่นเลย ตนต้องการจะเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจจะสื่อสาร ไขว้เขวก็ต้องขออภัย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ จุดมุ่งหมายก็คือการทำให้นายพิธา เป็นนายกฯ ให้ได้ และให้ก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ นี่คือสูตรเดียวของเพื่อไทยไม่มีการคิดอย่างอื่นเลย
เมื่อถามย้ำถึงเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองก็ยังงงว่ามาอย่างไร เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอน และคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยอย่างนี้ยิ่งส่งผลไม่ดี ยิ่งทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก
ขอย้ำอีกครั้งว่าพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในฉันทามติของประชาชน สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ และก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่เพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ