“ชัยยศ” วางแนวรับดัชนี 1,480 จุด แนะลงทุน CBG-AUCT ลุ้นไตรมาส 2 ฟื้น
“ชัยยศ จิวางกูร” แนะเก็บ 2 หุ้นเด่น CBG-AUCT คาดฟื้นตัวดีในไตรมาส 2/66 ด้านตัวเลขจ้างงานสหรัฐสร้างความวิตกว่าเฟดจะไม่ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการสด “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (7 ก.ค. 66) ว่าภาพรวมของเซนติเมนต์ในตลาดหุ้นไทยนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไร เนื่องจากความกังวลที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยยังคงเป็นตัวกดดัน
โดยตัวเลขการจ้างงานของทางสหรัฐได้เปิดเผยออกมาว่ามีจำนวนสูงมาก ด้านนักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้จำนวน 200,000 กว่าตำแหน่ง แต่ผลที่ออกมาคือจำนวน 400,000 กว่าตำแหน่ง ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อของทางสหรัฐอาจจะไม่ชะลอตัวลง สะท้อนให้เห็นในเรื่องของ Bon Yield และเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่มีการแข็งค่าขึ้นมาบ้าง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ดีต่อ Fund Flow และทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังคงมีภาพการอ่อนตัวลง
นอกจากนี้ ทาง SCB ยังมีเรื่องของภาวะเงินเฟ้อที่มีการปรับตัวลงมายังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เพราะฉะนั้นจะยังเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป
นายชัยยศ กล่าวว่า จากวานนี้ภาพรวมของเซนติเมนต์ตลาดมีการลดลงถึง 20 จุด หากต้องการลงทุนภายในวันนี้ มองดัชนีของแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,480 จุด แต่หากต้องการลงทุนในระยะยาว แนะนำดัชนีอยู่ที่แถวเดิมคือระดับ 1,460 จุดลงมา
ด้านหุ้นที่เหมาะแก่การลงทุนในช่วงนี้ ได้แก่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดยงบประมาณในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 260 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่แย่มาก แต่ในไตรมาสที่ 2/66 มองว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าจะกลับมาอยู่ที่ 420 ล้านบาท สาเหตุหลักคือต้นทุนเพิ่มและต้นทุนอะลูมิเนียมที่ลดลง ราคาพื้นฐานให้ไว้ที่ 84.00 บาท
บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT คาดว่าในปีนี้จะมีผลกำไรที่เติบโตค่อนข้างที่จะก้าวกระโดด จากปีที่แล้วกำไรอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนปีนี้มองว่ากำไรอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาทบวกลบ สาเหตุหลักคาดว่าจะมีคนรถที่จะเข้ามาในลานประมูลมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือทาง COVID-19 ให้กับลูกหนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะผ่อนรถไม่ไหว ส่งผลให้อาจจะถูกยึดรถและนำเข้ามาประมูลในส่วนนี้ ราคาแนะนำซื้ออยู่ที่ 12.00 บาท
นายชัยยศ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากแนวรับหลุดจากระดับ 1,460 จุด ต้องยอมรับว่าจะมีการลดความเสี่ยงลงและจะมีแรงช็อตเข้ามาเพิ่มเติมได้ ส่วนปัจจัยที่จะต้องระมัดระวังหรือต้องติดตามในช่วงสัปดาห์หน้า คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของทางสหรัฐ ภายในวันที่ 12 ก.ค. 66 นี้