สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ก.ค.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ก.ค.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันจันทร์ (10 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดใกล้จะยุติวงจรการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,944.40 จุด เพิ่มขึ้น 209.52 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,409.53 จุด เพิ่มขึ้น 10.58 จุด หรือ +0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,685.48 จุด เพิ่มขึ้น 24.77 จุด หรือ +0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (10 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการนำตลาดปรับตัวขึ้น และช่วยลดผลกระทบจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของจีนซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ซบเซาในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 448.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,143.69 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,673.16 จุด เพิ่มขึ้น 69.76 จุด หรือ +0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.79 จุด เพิ่มขึ้น 16.85 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (10 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.79 จุด เพิ่มขึ้น 16.85 จุด หรือ +0.23%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (10 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งความกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 72.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 78 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (10 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,931 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.60 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 23.345 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.30 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 934.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,236.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดใกล้จะยุติวงจรการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.30% แตะที่ระดับ 101.9780
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.3010 เยน จากระดับ 142.1470 ของวันศุกร์ (7 ก.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8854 ฟรังก์ จากระดับ 0.8887 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.7647 โครนา จากระดับ 10.8309 โครนา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3279 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3272 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0967 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2838 ดอลลาร์