สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ค.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ค.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (12 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,347.43 จุด เพิ่มขึ้น 86.01 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,472.16 จุด เพิ่มขึ้น 32.90 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,918.96 จุด เพิ่มขึ้น 158.26 จุด หรือ +1.15%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (12 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ลดลงซึ่งเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดปรับตัวขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 458.54 จุด เพิ่มขึ้น 6.82 จุด หรือ +1.51%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,333.01 จุด เพิ่มขึ้น 113.00 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,023.00 จุด เพิ่มขึ้น  232.66 จุด หรือ +1.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,416.11 จุด เพิ่มขึ้น 133.59 จุด หรือ +1.83%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารกลางอังกฤษ และการปรับตัวขึ้นของราคาโลหะหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,416.11 จุด เพิ่มขึ้น 133.59 จุด หรือ +1.83%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (12 ก.ค.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อชะลอตัวลงและเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 75.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 80.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 24.60 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 1,961.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.029 ดอลลาร์ หรือ 4.42% ปิดที่ 24.31 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 24.20 ดอลลาร์ หรือ 2.60% ปิดที่ 956.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 31.90 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 1,279.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (12 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.19% สู่ระดับ 100.5220 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี และเป็นการดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 138.3180 เยน จากระดับ 140.4630 เยนในวันอังคาร (11 ก.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8670 ฟรังก์ จากระดับ 0.8799 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3800 โครนา จากระดับ 10.6696 โครนา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3192 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ  1.3239 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1137 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0999 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2991 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2928 ดอลลาร์

Back to top button