STARK แจงผลสอบ “สเปเชียล ออดิท” คืบ 75% สะดุดเอกสาร “รายการเดินบัญชี” เลื่อนส่ง 29 ก.ย.

STARK แจงเลื่อนส่ง “สเปเชียล ออดิท” ก.ล.ต. ครั้งที่ 2 เป็น 29 ก.ย. 66 หลังผลสอบคืบ 75% เหตุสะดุดเอกสาร “รายการเดินบัญชี” ข้อมูลไม่เพียงพอ ขณะผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและกลุ่มบริษัทที่ถูกอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต.


บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์รายงานความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) รวมถึงการขอขยายระยะเวลาครั้งที่สอง และความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์

ทั้งนี้บริษัทรายงานความคืบหน้าโดยอ้างถึงหนังสือ 4 เรื่องคือ 1.หนังสือของสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เลขที่ กลต.จท-1. 2029/2566 เรื่องการขอขยายระยะเวลารายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566, 2.ข่าวของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ 117/2566เรื่อง มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด กรณี STARK รวม 10 ราย และห้ามมิให้ออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2566, 3.หนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง ขอขยายระยะเวลาเพื่อดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended[1]scope special audit) ครั้งที่สอง ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และ 4.หนังสือแจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง แนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2566

โดยล่าสุดวันนี้(17 ก.ค.66) การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) STARK ชี้แจงตลาดฯว่า ตามที่บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณี พิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ตามคำสั่งของ ก.ล.ต. และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ขยายระยะเวลา การดำเนินการดังกล่าวจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ตามสิ่งที่อ้างถึง 1 นั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทย่อยที่สำคัญทั้งหมด ตามสิ่งที่อ้างถึง 2 บริษัทจึงได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจปกติของกลุ่มบริษัท

แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้กลุ่มบริษัทหยุดประกอบกิจการทั้งหมด แต่ก็ทำให้เกิดข้อจำกัดต่าง ๆ อีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าและลูกค้า ของบริษัท การสรรหาบุคลากร (ไม่ว่าจะเป็นกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในตำแหน่งสำคัญ) เพื่อเข้ามาบริหารกิจการ และแก้ไขปัญหาของกลุ่มบริษัท การลาออกของช่างฝี มือ (skilled-workers) ขาดความต่อเนื่องและมีการหยุดชะงักลงอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มบริษัทจึงต้องระดมบุคลากรและทรัพยากรเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากคำสั่งดังกล่าว ตลอดจนทุ่มเทเวลาและทรัพยากรในการจัดเตรียมข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ในการดำเนินการขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการผ่อนผันให้กลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินและกิจการใดที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทต่อไปได้

ดังนี้ จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดเตรียมข้อมูล เพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) การดำเนินการดังกล่าวจึงยังไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขยายเพิ่มเติม โดยบริษัทได้จัดส่งรายงาน ความคืบหน้าให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1.บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทยังไม่สามารถสรุปผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ STARK ได้ โดยบริษัทกำลังดำเนินการ ตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคารในส่วนที่เหลือเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งดำเนินการตรวจสอบไปแล้ว ประมาณร้อยละ 75 (จากเดิมร้อยละ 60) อย่างไรตาม บริษัทประสบปัญหาในการขอรายการเดินบัญชี (bank statement) จากบางธนาคาร เนื่องจากเอกสารที่ได้รับมาไม่มีรายละเอียดเพียงพอในการตรวจสอบข้อมูลความ เชื่อมโยงรายการระหว่างผู้รับเงินและผู้จ่ายเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่าธนาคารสามารถเปิดเผยข้อมูลใน รายการเดินบัญชีในรูปแบบเดียวเท่านั้น และไม่สามารถให้ข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ บริษัทและผู้สอบบัญชี จึงต้องใช้เวลาอย่างมากในการตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารดังกล่าว การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงบริษัทอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมเอกสารอื่น ๆ เพื่อประกอบการลงบัญชีเพิ่มเติม การดำเนินการในส่วนนี้ จึงยังไม่แล้วเสร็จ

2.บริษัทย่อยรายบริษัท เฟ้ลปส์ดอดจ์ อนิเตอร์เนช่นัแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ในส่วนของ PDITL นั้น แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและการขาย เพื่อให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบ แต่เนื่องจากมีปริมาณเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา ในการดำเนินการตรวจสอบซึ่งการตรวจสอบเอกสารสำหรับปี 2565 มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 75 (จากเดิม ร้อยละ 60) โดยบริษัทอยู่ระหว่างการทยอยจัดเตรียมและนำส่งเอกสารส่วนที่เหลือให้แก่ผู้สอบบัญชี ควบคู่ไปกับ การรวบรวมชุดเอกสารประเภทเดียวกันสำหรับปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเอกสารที่ใกล้เคียงกันและต้องใช้ เวลาในการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ใกล้เคียงกัน การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ

3.บริษัท อดสิรสงขลา จำกัด (ADS) และ บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI) ในส่วนของ ADS และ TCI น ผู้สอบบัญชีได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของ ADS แล้วประมาณ ร้อยละ 50 (จากเดิมร้อยละ 30) และตรวจสอบข้อมูลของ TCI แล้วประมาณ ร้อยละ 50 (จากเดิมร้อยละ 20) ของข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบธุรกรรมที่อาจผิดปกติใน TCI เพิ่มเติม ผู้สอบบัญชีจึงอาจจะต้องขยายขอบเขตในการตรวจสอบเพิ่มเติม บริษัทจึงต้องจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ ดังกล่าว และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าว การดำเนินการในส่วนนี้ของ ADS และ TCI จึงยังไม่แล้วเสร็จ ด้วยเหตุการถูกอายัดทรัพย์สิน ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อกลุ่มบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงต้องทุ่มเท บุคลากรและเวลาในการรวบรวมข้อมูลและเอกสารให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้บริษัทสามารถทำธุรกรรมที่จำเป็นได้ และเพื่อขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาผ่อนผันคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้กลุ่มบริษัทกลับมาประกอบธุรกิจเป็นปกติ และป้องกัน ปัญหาในเรื่องการหยุดชะงัก หรือหยุดประกอบกิจการของกลุ่มบริษัทซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุก ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ เจ้าหนี้ ลูกค้า คู่ค้าต่าง ๆ และพนักงานของกลุ่มบริษัทอย่างประเมินค่าไม่ได้ บริษัทจึงไม่สามารถดำ เนินการให้การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) เสร็จสิ้นภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566

ดังนี้บริษัทจึงได้ยื่นหนังสือขอขยายระยะเวลา เพื่อดำเนินการในส่วนนี้เป็นครั้งที่สอง ไปจนถึงวันที่ 29 กันยายน 2566(ตามสิ่งที่อ้างถึง 3) และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.

ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันว่าบริษัทมิได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อให้การตรวจสอบ เป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) เสร็จสิ้นโดยเร็ว และจะรายงานความคืบหน้าให้กับนักลงทุนทราบเป็นระยะ

ด้านแนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ตามที่บริษัทได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ตามสิ่งที่อ้างถึง 4 บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ของบริษัทและกลุ่มบริษัทที่ถูกอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต.

เนื่องจากการอายัดทรัพย์สิน บริษัทจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้ได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถ ดำเนินการใด ๆ เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวย่อมเป็นการยากที่บริษัทจะ ดำเนินการเพิ่มทุนหรือพิจารณาหานักลงทุนรายใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัท และบริษัทยังอาจไม่สามารถที่จะยื่น คำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัทภายใต้แผนฟื้นฟู กิจการได้อีกต่อไป เพราะหากกลุ่มบริษัทไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการดำเนินกิจเป็นปกติ บริษัทย่อมไม่สามารถนำเสนอช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการได้อย่างประสบความสำเร็จภายใต้การถูกอายัดทรัพย์สิน

บริษัทจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญในการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการผ่อนผันให้ กลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินและกิจการใดที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทต่อไปได้ เป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ทั้งนี้บริษัทจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแก้ไขกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ เพื่อรักษา ประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกรายบริษัท และกอบกู้กิจการของกลุ่มบริษัทเพื่อให้ยังดำเนินธุรกิจ ต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ทั้งของบริษัทและบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก เพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่ามากกว่าศูนย์ และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติของบริษัทย่อย ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก และลดผลกระทบต่อพนักงานของกลุ่มบริษัทที่มีมากกว่าหนึ่งพันครอบครัว

โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบ ถึงแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทราบต่อไป เมื่อสถานการณ์ของบริษัทดีขึ้น

Back to top button