“สุเชษฐ์” แนะ 5 หุ้นเก็งกำไร! รอการเมืองชัดเจน

นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด หรือ ASL เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (18 ก.ค. 66) ว่าปริมาณของสัญญาณการซื้อขายไม่แน่น แต่หุ้นใหญ่มองว่าปรับตัวไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี อาทิ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดยยังไม่เกิดสัญญาณของการ high ยกเว้นหุ้น ADVANC ที่ราคาเล่นระดับ 222.00 บาท นอกนั้นยังไม่โดดเด่น

ดังนั้นทาง ASL มองว่าแนวโน้มภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ แนวต้านปรับขึ้นไปที่ระดับ 1,546 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,520 จุด

ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดหุ้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่เรื่องของการเมืองต้องมีความชัดเจนเสียที โดยมีสัญญาณที่สำคัญอย่างหนึ่งว่า ถ้าปริมาณการซื้อขายยังคงอยู่ที่ระดับ 35,000-40,000 ล้านบาท จะสะท้อนว่ายังลงมติไม่ได้ แต่ถ้าปริมาณการซื้อขายขยับไปที่ระดับ 50,000 ล้านบาท ขึ้นไป จะสะท้อนให้เห็นว่ามีการลงมติที่ชัดเจนแล้ว และมองว่าหากการเมืองไม่มีความชัดเจนแล้วทำให้ดัชนีของตลาดหุ้นปรับลดลงไปสู่ระดับล่าง มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ส่วนด้านตลาดหุ้นฮ่องกงมีลักษณะของการแกว่งในวันนี้ ฉะนั้นตลาดหุ้นไทยวันนี้อาจจะมีการแกว่งได้

หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA มองว่าโดดเด่นมาก ให้แนวรับที่ระดับ 46.00-47.50 บาท แนวต้าน 50.50-52.75 บาท, บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เริ่มมีสัญญาณในการปรับขึ้น ให้แนวต้านที่ระดับ 76.00 บาท แนวรับที่ระดับ 70.00 บาท, บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD มองว่าเป็นลักษณะการแกว่งเล่นรอบ ไม่แนะนำให้ “ซื้อ” หรือ “ถือ” ให้แนวรับที่ระดับ 14.80 บาท แนวต้านที่ระดับ 17.00 บาท

นอกจากนี้ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ให้แนวต้านที่ระดับ 17.00 บาท แนวรับที่ระดับ 15.00 บาท และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ high เดิม ให้แนวต้านที่ระดับ 4.80 บาท แนวรับที่ระดับ 4.50 บาท โดยหุ้นที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่มีสัญญาณของการ reverse กลับ และมองว่าแนวโน้มตลาดในช่วงบ่ายวันนี้ ตลาดจะบวกขึ้นไป 15 จุดและแกว่งตัวแคบ

อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจนั้นดีขึ้น แต่ถ้าหากไม่ใช่พรรคเพื่อไทย มองว่าเป็นพรรคใดก็ได้ที่ทำให้เสถียรภาพทางการเมืองมั่นคงขึ้น และเชื่อว่าการลงมติในการจัดตั้งรัฐบาลต้องจบก่อนเดือนก.ย. 66 นี้ เพราะตั้งแต่เดือนก.ย.-พ.ย. จะเป็นช่วง high season สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากการเมืองยังมีความยืดเยื้อ มองว่าตลาดหุ้นไทยจะเสียผลประโยชน์มากกว่าตลาดอื่น ๆ