สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ก.ค.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ก.ค.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) ทำสถิติขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2560 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทสลา และเน็ตฟลิกซ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,225.18 จุด เพิ่มขึ้น 163.97 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,534.87 จุด ลดลง 30.85 จุด หรือ -0.68% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,063.31 จุด ร่วงลง 294.71 จุด หรือ -2.05%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มแบงก์ และกลุ่มเฮลท์แคร์ แม้หุ้นกลุ่มชิปถูกเทขายอย่างหนัก หลังจาก TSMC ซึ่งเป็นบริษัทชิปของไต้หวันเปิดเผยคาดการณ์ยอดขายที่ซบเซา

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 463.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ +0.42%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,384.91 จุด เพิ่มขึ้น 57.97 จุด หรือ +0.79%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,204.22 จุด เพิ่มขึ้น 95.29 จุด หรือ +0.59% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,646.05 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด หรือ +0.76%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นหลังบริษัทแองโกล อเมริกันเปิดเผยข้อมูลการผลิตทองแดงที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,646.05 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด หรือ +0.76%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งรายงานที่ว่าจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 9.90 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 1,970.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42.50 เซนต์ หรือ 1.67% ปิดที่ 24.962 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20.70 ดอลลาร์ หรือ 2.10% ปิดที่ 964.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 32.10 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,275.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.59% แตะที่ 100.8764

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 140.1930 เยน จากระดับ 139.6080 เยนในวันพุธ (19 ก.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8671 ฟรังก์ จากระดับ 0.8587 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3178 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3160 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3550 โครนา จากระดับ 10.2645 โครนา

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1126 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1202 ดอลลาร์ในวันพุธ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2858 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2929 ดอลลาร์

Back to top button