เปิดโผ 19 หุ้น “แลกการ์ด” รับมือดอกเบี้ย-การเมืองผันผวน

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้นักลงทุนต้องเตรียมรับมือกับ 3 ปัจจัยสำคัญ ดอกเบี้ยโลก การเมืองไทย รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยฝ่ายวิจัยทำการค้นหาหุ้นในกลุ่มที่ราคา Laggard ตลาด SET ปิดลบ 8.4% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน แต่กลับได้ Sentiment เชิงบวกจากหุ้นรับมือ 3 ปัจจัยสำคัญ ดอกเบี้ยโลก การเมืองไทย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ประเด็นดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.) การประชุมธนาคารสำคัญของโลก เริ่มจากคืนวันที่ 26 ก.ค. 66 ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในปีนี้ 0.25% สู่ระดับ 5.25% โดยต่อมาวัน 27 ก.ค.66 ทาง ECB มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับเป็น 4.25%

นอกจากนี้ วันที่ 28 ก.ค.66 ด้าน BOJ อาจคงดอกเบี้ยที่ -0.1% คาดจะสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นในช่วงสั้น แต่อาจจะเป็น Sentiment ที่ดีในระยะถัดไปจากโค้งท้ายเฟดขึ้นดอกเบี้ย ยังคงแนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม FIN ลดลง 23.6% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ SAWAD, MTC, JMT (PROP) ลดลง 11.4% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ SPALI, AP, SIRI, ORI

2.) การโหวตนายกฯ ไทย ครั้งที่ 3 ในวันที่ 27 ก.ค.66 ประเมินภาพการเมืองในช่วงนี้ว่าอยู่ในวิสัยที่สามารถคาดการณ์ได้มากขึ้น และน่าจะทำให้ Downdside ของ SET Index จำกัด ภายใต้การชุมนุมที่ไม่รุนแรงและไม่ยืดเยื้อ ยังคงแนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม CONS ลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ STEC, CK, และโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC, GULF รวมถึง COMM ลดลง 10.8% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ CRC, COM7, JMART

3.) รอประชุม Politburo กระตุ้นเศรษฐกิจจีน (27 ก.ค.66) หลังจากเศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเร็วอย่างที่ตลาดคาด ยังคงแนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม PKG ลดลง 28.9% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ SCGP, PETRO ลดลง 17.7% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน คือ IVL, และ TRANS ที่ลงใกล้ๆ ตลาดที่ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับตั้งแต่เริ่มต้นปีปัจจุบันจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ III, BEM