SUSCO ควัก 28 ล้าน ซื้อเพิ่ม “สยามมงคลเดินเรือ” ดันถือ 50%
บอร์ด SUSCO ไฟเขียวควัก 28 ล้าน ซื้อเพิ่ม “สยามมงคลเดินเรือ” ดันถือ 50% จากเดิมสัดส่วน 30.70% คาดธุรกรรมแล้วเสร็จงภาย 31 ก.ค.66
บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้รับหนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ (บริษัทฯถือหุ้นอยู่ร้อยละ 30.70) มีวาระพิจารณาอนุมัติเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัทดังกล่าวจำนวน 4,010,637 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 40,106,370 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยผู้ถือหุ้นมีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญใหม่ในจำนวนเกินกว่าสิทธิของตนได้
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนตามสัดสวนที่บริษัทฯถือหุ้นจำนวน 1,214,900 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 12,149,000 บาท ซึ่งการเพิ่มทุนตามสัดส่วนนี้ได้รับการยกเว้นการคำนวณรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และเหรือรายการเกี่ยวโยงกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติให้ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสัดส่วนหากผู้ถือหุ้นเดิมสละสิทธิเพิ่มทุนรวมจำนวนไม่เกิน 2,742,552 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท มูลค่าไม่เกิน 27, 425 520 บาท และอนุมัติซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่คงเหลือหลังจากการจัดสรรตามสัดส่วนดังกล่าวแล้ว อีกจำนวน 53,185 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท มูลค่าไม่เกิน 531,850 บาท รวมเป็นการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งสิ้นจำนวน 2,795.737 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท มูลค่าไม่เกิน 27,957,370 บาท
อีกทั้งอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญจากบุคคลเกี่ยวโยงกัน ได้แก่ นายชัยฤทธิ์ สึมะโรจน์ และนายมาวีร์ สิมะโรจน์ ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทฯรวมจำนวน 145,740 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 14,574 บาท รวมมูลค่าการได้มาซึ่งหุ้นสามัญทั้งสิ้นไม่เกิน 27,971,944 บาท
ในการทำธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสัดส่วนจากผู้ถือหุ้นเดิมที่สละสิทธิเพิ่มทุน การซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่คงเหลือหลังจากการจัดสรรตามสัดส่วน และการซื้อหุ้นสามัญจากบุคคลเกี่ยวโยงกัน เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ .20/2551
ทั้งนี้ เมื่อคำนวณขนาดรายการตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน มีขนาดรายการต่ำกว่าร้อยละ 15 ซึ่งไม่เข้าข่ายขนาดรายการที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามประกาศ เรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์
อย่างไรก็ตามในจำนวนการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสัดสวนนั้น เป็นการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบุคคลเกี่ยวโยงกันที่สละสิทธิการเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,308,184 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นมูลค่ำไม่เกิน 13,081,840 บาทและการซื้อหุ้นสามัญจากบุคคลเกี่ยวโยงกัน ได้แก่ นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ และนายมาวีร์ สิมะโรจน์ ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทฯจำนวนรวม 145,740 หุ้น ราคาหุ้นละ 0.10บาท คิดเป็นเงินจำนวน 14,574 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 13,096,414 บาท
รายการดังกล่าวเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551 และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ซึ่งถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
ประเกทที่ 4 รายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการ ซึ่งไม่สามารถคำนวณขนาดรายการตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิได้เนื่องจากมูลคำติดลบ ทั้งนี้ เมื่อวัดขนาดรายการเกี่ยวโยงกันที่มีมูลค่าสูงสุด 13,096.414 บาท ตามเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำแล้ว มีขนาดรายการมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดเป็นรายการขนาดกลาง และไม่มีรายการที่เกี่ยวโยงกันรายเดียวกันหรือผู้ที่เกี่ยวข้องหรือญาติสนิทของบุคคลดังกล่าวในรอบระยะเวลา 6 เดือนของบริษัทฯ ก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว จึงต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อนเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว และเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัทฯจะทำธุรกรรมข้างภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 หลังจากการทำธุรกรรมดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทร่วม ซึ่งจะทำให้บริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด กลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ