สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.ค.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.ค.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 12 ในวันอังคาร (25 ก.ค.) ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560 โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการ ซึ่งรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,438.07 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.82 จุด หรือ +0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,144.56 จุด เพิ่มขึ้น 85.69 จุด หรือ +0.61%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (25 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 8 เดือน หลังจีนยืนยันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และหุ้นยูนิลีเวอร์ปรับตัวขึ้นหลังเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่สดใส
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 467.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด หรือ +0.48%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,415.45 จุด ลดลง 11.86 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,211.59 จุด เพิ่มขึ้น 20.64 จุด หรือ +0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,691.80 จุด เพิ่มขึ้น 13.21 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (25 ก.ค.) และปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้น หลังจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ยืนยันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่หุ้นยูนิลีเวอร์พุ่งขึ้น หลังเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่สดใส
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,691.80 จุด เพิ่มขึ้น 13.21 จุด หรือ +0.17%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 ก.ค.) ขานรับข่าวรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2566
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 83.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2566
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (25 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,963.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 24.82 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 976.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,281.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 ก.ค.)ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) , ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% แตะที่ 101.4045
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3167 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3166 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.0230 เยน จากระดับ 141.4370 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8646 ฟรังก์ จากระดับ 0.8681 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3802 โครนา จากระดับ 10.4154 โครนา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1045 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1071 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2892 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2824 ดอลลาร์