“ชัยยศ” แนะเก็บ PTTEP-CBG พื้นฐานดี

“ชัยยศ จิวางกูร” แนะเก็บ 2 หุ้น PTTEP-CBG มองพื้นฐานดี-กำไรโตแกร่ง พร้อมแนะกลยุทธ์ wait and see หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EGCO-RATCH เพราะมี volume ขายออกมา


นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการสด “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (26 ก.ค. 66) ว่าการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ Fund Flow เงินต่างประเทศนั้นมีความน่ากังวล เพราะไม่มั่นใจว่าจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงเมื่อไร อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อส่วนงบประมาณและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะตามมา ดังนั้นภาพรวมของการไหลออกของ Fund Flow ค่อนข้างที่จะไหลออกจำนวนมาก หรือกล่าวได้ว่ามีแรง “ขาย” จนกว่าจะได้สัดส่วนที่ต้องการ ซึ่งมีการขายแล้วเป็นระยะเวลา 3-4 วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากสาเหตุของความไม่แน่นอนของการเมือง ลักษณะการเลือกลงทุนจึงเป็นในรูปแบบของ global play กล่าวคือ รายได้และกำไรจะมาจากต่างชาติหรือสินค้า community อ้างอิงกับตลาดโลก เช่นกลุ่มหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ในส่วนของระยะกลาง ๆ ถ้าหากยังไม่มีความชัดเจนทางการเมืองเกิดขึ้นอีก มองว่าการลงทุนแบบ domestic play จะยังคงอ่อนแอ เพราะจากที่กล่าวไปข้างต้นในเรื่องของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ Fund Flow ต่างประเทศก็คงยังจะไม่ไหลเข้ามา และในส่วนของระยะสั้น กล่าวในเรื่องงบประมาณไตรมาสที่ 2 มองว่ากลุ่มหุ้นเครื่องดื่มได้รับอานิสงส์ในช่วงไตรมาสที่ 2/66 เพราะเป็นช่วงฤดูร้อน และปีนี้อากาศมีความร้อนสูง จึงส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มหุ้นนี้มีมากขึ้น

กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นักลงทุนท่านใดที่ “ถือ” หุ้นเครื่องดื่มแล้วผลประกอบการณ์ออกมาในรูปแบบที่คาดการณ์ไว้ มองว่าอาจจะมีโอกาสรอกำไร แล้วค่อยไปดูในจังหวะที่หุ้นอ่อนตัวลง และรอจังหวะของเข้า “ซื้อ”

ด้านหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ที่มีการอ่อนตัวลงอย่างหนัก มองว่ามีความกังวลกับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า กล่าวคือ RATCH จะมีโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ด้านนักลงทุนยังไม่ค่อยมั่นใจว่าโครงการเหล่านั้นจะสามารถทดแทนกับโครงเก่า ๆ ได้หรือไม่ ส่วน EGCO มีแผนจะลงทุนในสิ่งใหม่ นักลงทุนก็มีความไม่มั่นใจเช่นกันว่าตรงนี้จะสามารถรีเทิร์นได้เหมือนกับสิ่งที่โรงไฟฟ้าเก่าเคยทำได้หรือไม่ ราคาหุ้นจึงมีการปรับตัวลงมา แนะให้ wait and see เนื่องจากหุ้น 2 ตัวที่กล่าวไปข้างต้นนั้นเพิ่งจะมีการอ่อนตัวลงแรง ๆ ครั้งแรก ในรอบหลาย ๆ เดือน และมี volume ขายออกมาค่อนข้างเยอะ ควรรอให้แรงขายเบาบางลงไปก่อน

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นที่น่าเก็งกำไรในช่วงนี้ ได้แก่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เนื่องจากราคาน้ำมันตอนนี้มีการดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะ และถ้าราคาน้ำมันยังคงเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 3/66 ก็มองว่าสามารถดีขึ้นได้อีกด้วย ให้ราคาพื้นฐานที่ 162.00 บาท  และบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เนื่องจากมียอดขายในต่างประเทศด้วย อาทิ ประเทศพม่า, จีน และกัมพูชา จึงเป็นลักษณะของกระจายความเสี่ยง และจากวานนี้ทางจีนมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ออกมา คาดว่ายอดขายน่าจะดีขึ้นด้วย ในส่วนของงบประมาณไตรมาสที่ 2/66 น่าจะออกมาเติบโตดี เทียบไตรมาสต่อไตรมาส ให้ราคาพื้นฐานที่ 84.00 บาท

Back to top button