สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ค.2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 ก.ค.) รวมถึงดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดบวกในรอบสัปดาห์นี้ด้วย หลังจากที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่, การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ และการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง (Soft Landing)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,459.29 จุด เพิ่มขึ้น 176.57 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,582.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด หรือ +0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,316.66 จุด เพิ่มขึ้น 266.55 จุด หรือ +1.90%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันศุกร์ (28 ก.ค.) โดยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แตกต่างกันไป และจากการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 470.78 จุด ลดลง 0.96 จุด หรือ -0.20%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,476.47 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,469.75 จุด เพิ่มขึ้น 63.72 จุด หรือ +0.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,694.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.51 จุด หรือ +0.02%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (28 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,694.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.51 จุด หรือ +0.02% และปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 ก.ค.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่า อุปสงค์ที่แข็งแกร่งและการปรับลดการผลิตจะยังคงช่วยหนุนราคา

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 80.58 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.6% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 84.99  ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.8% ในรอบสัปดาห์นี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14.7 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,960.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.7 ดอลลาร์ หรือ 0.7% สู่ระดับ 1,999.90 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวลงราว 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 24.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 943.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,239.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (28 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 101.6268

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน, ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์แคนาดาและโครนาสวีเดน

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1023 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ (28 ก.ค.) จากระดับ 1.0973 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าแตะ 1.2855 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2800 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 141.1080 เยนในวันศุกร์ จากระดับ 141.1080 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 0.8695 ฟรังก์สวิส จาก 0.8694 ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3240 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3232 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์แข็งค่าแตะ 10.5354 โครนาสวีเดน จาก 10.5203 โครนาสวีเดน