NUSA แจงไร้กระทบ ศาลฯสั่ง “ณพ-พวก 14 ราย” จ่าย 3 หมื่นล้าน คดีโกงหุ้น WEH

NUSA แจงในฐานะผู้ถือหุ้น WEH สัดส่วน 7.12% ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อคำตัดสินของศาลอังกฤษว่าให้นายณพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่”


นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ชี้แจงข่าวตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่าศาลอังกฤษได้มีคำตัดสินให้นายนพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH นั้น

ทั้งนี้ NUSA ขอเรียนให้ทราบว่าบริษัท ฯ ในฐานะผู้ถือหุ้นใน WEH ในสัดส่วนร้อยละ 7.12 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ WEH ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อคำตัดสินดังกล่าว เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นฝ่ายหนึ่งกับผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายหนึ่งของ WEH โดยบริษัท ฯ ได้รับการยืนยันจากผู้บริหารของ WEH ว่าข้อพิพาทดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตัวบริษัท WEH อีกทั้งหุ้นที่ NUSA เข้าซื้อจำนวนร้อยละ 7.12 ไม่ได้อยู่ในข้อพิพาทดังกล่าวแต่อย่างใด

อนึ่งอ้างอิงข้อมูลสำนักข่าวบีบีซีไทย รายงานเมื่อวานนี้ว่า ศาลอังกฤษตัดสินเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ให้นายณพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WEH ซึ่งยื่นฟ้องในข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH ในราคาต่ำกว่ามูลค่า

อย่างไรก็ตาม มีจำเลย 3 รายพ้นข้อกล่าวหา คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ , นายอาทิตย์ นันทวิทยา และ MS.KHADIJA BILLAL SIDDIQUE

โดยคดีดังกล่าวนายนพพร พร้อมด้วย บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส , บริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนท์ส และ บริษัท ไดนามิค ลิงค์ เวนเจอร์ส อยู่ในฐานะโจทก์

ขณะที่จำเลย 17 ราย ได้แก่ นายณพ พร้อมด้วยอดีตผู้บริหาร WEH ได้แก่ MS.EMMA LOUISE COLLINS, นายธันว์ เหรียญสุวรรณ, MR.AMAN LAKHANEY, MS.KHADIJA BILLAL SIDDIQUE รวมทั้ง COLOME INVESTMENTS LIMITED, KELESTON HOLDINGS LIMITED, ALKBS LLC, GOLDEN MUSIC LIMITED, ธนาคารไทยพาณิชย์, นายอาทิตย์ นันทวิทยา, CORNWALLIS LIMITED, นายวีรวงศ์ จิตต์มิตรภาพ, นายเกษม ณรงค์เดช, คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา, นายประเดช กิตติอิสรานนท์ และนายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์

สำหรับ WEH ก่อตั้งในปี 52 โดยนายนพพร ถือหุ้น 59.46% ผ่านบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (REC)  โดย REC มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส, เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนท์ส และ ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทของนายนพพร รวมถือหุ้น REC 97.94%

ทนายของฝ่ายโจทก์ระบุว่าจำเลยสมคบกันจัดการเอกสารสำคัญจูงใจให้นายนพพรและบริษัทในเครือขายหุ้น REC ในราคาต่ำกว่าราคายุติธรรมให้กับบริษัทของนายณพ ซึ่งในขณะนั้นกิจการของ WEH มีมูลค่า 872 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปัจจุบันมีมูลค่าถึง 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นายนพพรได้รับเงินเพียง 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนจำเลยบางรายบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้วจูงใจให้นายนพพรขายหุ้น REC ให้กับบริษัทของนายณพก่อน โดยหลอกว่าจะมีสิทธิซื้อหุ้น WEH คืนได้ด้วยสิทธิในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิง (call options) แต่หลังจากที่โอนหุ้น REC ไปยังบริษัทของนายณพแล้ว กลับมีการโอนหุ้น WEH ออกจาก REC ให้จำเลยหลายราย ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้นายนพพรสามารถเข้าถึงหุ้น WEH ได้ ซึ่งการเคลื่อนย้าย ปกปิด หรือโอนทรัพย์ให้ผู้อื่นด้วยความจงใจที่จะสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้นั้น ซึ่งศาลเห็นว่าประเด็นนี้เป็นแผนการยักยอกทรัพย์

 

Back to top button