JCK ชงผถห.ไฟเขียวซื้อ “เจซี เควิน สาทร” มูลค่า 3 พันล้าน

JCK เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าซื้อโรงแรม "เจซี เควิน สาทร" 3 พันลบ. พร้อมเพิ่มทุนขาย RO สัดส่วน 1:1 ที่ราคา 30 สต./หุ้น คิดเป็นมูลค่า 1 พันลบ.


นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JCK เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้มีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.66 ทั้งหมด และได้พิจารณาอนุมัติเรื่องดังกล่าวทั้งหมดใหม่อีกครั้งในการประชุมครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องประกอบกับเพื่อให้บริษัทมีเวลาในการจัดเตรียมข้อมูลสารสนเทศและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำรายการเพิ่มเติมและมีเวลาเพียงพอในการจัดส่งข้อมูลต่าง ๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าตามที่กำหนดในกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับมติที่ประชุมคณะกรรมการในวันนี้ให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการลดทุนจดทะเบียน 1,599,567,762.00 บาท จากเดิม 5,065,400,946.00 บาท เป็น 3,465,833,184.00 บาท โดยตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 980,463,438 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)

และการออกเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (GeneralMandate) ที่ยังไม่ได้จำหน่าย และตัดหุ้นสามัญคงเหลือเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ได้แก่ Advance Opportunities Fund และ Advance Opportunities Fund 1 จำนวน 619,104,324 หุ้น

พร้อมทั้งพิจารณาอนุมัติให้บริษัทหรือบริษัทย่อยของบริษัทเข้าซื้ออาคารชุด “สาทร เฮอริเทจ เรสซิเดนเซส” อาคารบี, ซี (บางส่วน) ภายใต้ชื่อ “โรงแรม เจซี เควิน สาทร กรุงเทพฯ” โดยเป็นการซื้อห้องชุดพาณิชกรรมและห้องชุดพักอาศัย จำนวน 318 ห้องภายใน อาคารชุด “สาทร เฮอริเทจ เรสซิเดนเซส” จากบริษัท เจซี เควิน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (JCKD) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 3,055 ล้านบาท ชำระเป็นเงินสดและแบ่งการชำระราคาซื้อขายออกเป็น 3 งวด

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 4,505,583,138 บาท เป็น7,971,416,322 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,505,583,138 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 3,465,833,184 หุ้น และรองรับการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 1,039,749,954 หุ้น บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 3,465,833,184 หุ้นให้ RO ในอัตราส่วนการจัดสรร 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นมูลค่าการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,039,749,955.20 บาท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนสะสมปรากฏในงบการเงิน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.66 บริษัทจึงสามารถกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทต่ำกว่าพาร์ได้

ส่วนการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 1,039,749,954 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ General Mandate จะเสนอขาย RO ไม่เกิน 693,166,636 หุ้น และเสนอขาย 346,583,318 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริษัทจะจัดหาเงินทุนจากการเพิ่มทุนที่จะออกและเสนอขายให้แก่ RO เพียงพอต่อความต้องการใช้เงินทุนในการเข้าทำธุรกรรมการซื้อทรัพย์สินจาก JCKD นายอภิชัย จึงได้แจ้งความประสงค์ที่จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และจองซื้อเกินสิทธิ ซึ่งอาจทำให้นายอภิชัย มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทที่จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) นายอภิชัยมีความประสงค์ที่จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash)

Back to top button