“อนันดา เอ็มเอฟฯ” เปิดแนวทางแก้ปม “แอชตัน อโศก” ยันเคียงข้างลูกค้า

“บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย” แจ้งความคืบหน้า 3 แนวทางแก้ไข “โครงการแอชตัน อโศก” เร่งดำเนินการแสวงหาทางออกเสนอทางช่วยเหลือ พร้อมแจงเงื่อนไข เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา


บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงาน สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โครงการแอชตัน อโศก  เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาทางออกสำหรับท่านเจ้าของร่วม และชี้แจงประเด็นอื่นๆ

โดย บริษัทฯ ขอเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวแนวทางที่จะแก้ไขต่อไปโดยเร็ว ดังนี้

แนวทางแก้ไขกรณีใบอนุญาตก่อสร้าง บริษัทฯจะยื่นขอใบอนุญาตใหม่หลังซื้อที่ดินเพิ่มเติม และ เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน สำนักการโยธาไปยังกระทรวงมหาดไทย พร้อมเสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. เสนอผ่านกระทรวงคมนาคม ไปจนถึงนายกรัฐมนตรี และยังยื่นทบทวนสิทธิ์ที่ดินเดิมทางเข้า-ออก คือ ให้สิทธิ์ทางเข้า-ออกอย่างน้อย 12-13 เมตร และเนื่องจากมีพยานหลักฐานใหม่ บริษัทฯจึงยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่ด้วย

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เร่งประสานงานกับสถาบันการเงินหลายแห่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการผ่อนชำระสินเชื่อของท่านเจ้าของร่วม โดยบริษัทฯ ได้เชิญสถาบันการเงินต่างๆ เข้าร่วมประชุมสำหรับแนวทางด้านการผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยพิเศษและมาตรการ ลดภาระในการผ่อนชำระอื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านเจ้าของร่วมทราบโดยเร็ว

บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคารแบบมีเงื่อนไขและรับทราบสถานะคดี

อนึ่ง บริษัทฯ ได้ขอขยายระยะเวลาโอนกรรมสิทธิ์ โดยแจ้งเรื่องคดีของโครงการให้ลูกค้าทราบ พร้อมทั้งเสนอแนวทาง 3 ข้อให้ลูกค้าพิจารณา คือ (1) การยกเลิกสัญญา และคืนเงิน (2) การย้ายโครงการตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้ (3) หากถือสัญญาไว้ต่อจนถึงครบกำหนดการขยายระยะเวลา (26 มีนาคม 2562) ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินที่ชำระมาแล้วทั้งหมด พร้อมทั้งแจ้งสถานะเกี่ยวกับคดีของโครงการให้รับทราบด้วย

ในเวลาต่อมา บริษัทฯ ได้จัดส่งเอกสารแจ้งสถานะคดีของโครงการ ในหนังสือนัดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ไปยังลูกค้าทุกราย ซึ่งได้รับการลงนามการตอบรับมาเป็นส่วนใหญ่ สำหรับลูกค้าที่ซื้อและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ได้รับทราบสถานะคดี ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในบันทึกแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ดังนั้น ลูกค้าของโครงการจึงรับทราบสถานะของคดีมาโดยตลอด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะร่วมเคียงข้างเจ้าของร่วมทุกท่าน และกำลังเร่งดำเนินการแสวงหาทางออกอย่างสุดความสามารถ โดยจะแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆ ให้ท่านเจ้าของร่วมทราบโดยเร็ว

Back to top button