3BB ผิดนัดชำระค่าเช่า JASIF กระทบ “บลจ.บัวหลวง” สะดุดจ่ายสินเชื่อ BBL
3BB ผิดนัดค้างชำระค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนประกันรายได้ JASIF จำนวน 288.70 ล้านบาทกระทบ บลจ. บัวหลวง ผิดนัดสัญญาสินเชื่อ BBL ดังนั้น บลจ.บัวหลวง จึงชงผู้ถือหน่วยลงทุนอนุมัติผ่อนผันพักชำระหนี้วันที่ 23 ส.ค.นี้ ส่วนโบรกฯ ชี้หาก ADVANC ได้เข้าซื้อ TTTTB-JASIF จะช่วยให้ศักยภาพของ JASIF ดีขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง) ได้มีการแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 หลังจากที่ครบกำหนดเรื่องค่าเช่าสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่า ของ บริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ที่ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ผู้ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 3BB มีการค้างชำระค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 288.70 ล้านบาท ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 หลังจากนั้นได้มีการขยายเวลาชำระเงินไปอีก 15 วัน ทำให้มีกำหนดชำระวันที่ 2 สิงหาคม 2566 แต่เมื่อครบกำหนดได้มีการผิดนัดไม่ได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวตามสัญญา
โดยทำให้ บลจ.บัวหลวง มีการดำเนินการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 23สิงหาคม 2566 ณ ห้อง Le Concord Ballroom ชั้น 2 โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา เพื่อพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการขอผ่อนผันเพื่อหยุดพักการชำระค่าเช่าและการผิดนัดชำระค่าเช่า โดย TTTBB ภายใต้สัญญาประกันรายได้ค่าเช่า
สำหรับการผิดนัดของ TTTBB ภายใต้สัญญาประกันรายได้ค่าเช่าดังกล่าว ถือว่าเป็นเหตุผิดนัดภายใต้สัญญาสินเชื่อฉบับลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่กองทุนรวมมีกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ด้วย โดยบริษัทจัดการอยู่ระหว่างการประสานงานกับธนาคารกรุงเทพเพื่อขอผ่อนผันการผิดนัดดังกล่าวควบคู่ไปกับการประชุมวิสามัญในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อกองทุนรวม บริษัทจัดการจะรายงานให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ทั้งนี้หากย้อนไปดูเรื่องของการค้างชำระค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง TTBB ได้มีการเลื่อนการชำระเงินดังกล่าวตามเวลากำหนดได้ และในเวลาต่อมาก็สามารถชำระเงินได้ครบในช่วงที่มีการขยายเวลาทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ที่ บลจ.บัวหลวง ออกมาให้ข้อมูลครั้งแรก ตั้งเดือน มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม,มิถุนายน จนมาถึงครั้งล่าสุดเดือน กรกฎาคม ที่มีการเลื่อนชำระเงินจำนวน 288.70 ล้านบาท ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ซึ่งก็มีการขอขยายชำระค่าเช่า แต่เมื่อครบกำหนดกำหนดก็ไม่ได้จ่าย จนเรียกได้ว่าเป็นการผิดชำระหนี้
ก่อนหน้า นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้เคยชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กรณี TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นผ่านบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด ในสัดส่วน 99.87% ของTTTBB มีการจ่ายค่าเช่าให้กองทุนไม่ครบถ้วนนั้น ขอชี้แจงว่า โดยตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าระหว่างกองทุน JASIF กับ TTTBB นั้น TTTBB สามารถชำระค่าเช่าล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ (Due date) โดยในระหว่างนี้ TTTBB จะต้องเสียค่าปรับในอัตรา 7.50% ต่อปี จนกว่าจะชำระค่าเช่าครบถ้วน
ต่อมา บลจ.บัวหลวง ได้มีการแจ้งผ่านตลาดในวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ว่ามีคำขอของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ให้ บลจ.บัวหลวงจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2566 ในวันที่23 สิงหาคม มีด้วยกัน 3 วาระ โดยในฐานะที่ JAS เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TTTBB คุยเรื่องการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะมีการพูดคุยในเรื่องความสามารถชำระเงินค้างชำระค่าเช่าให้ JASIF ต่อไป
สำหรับวาระสำคัญคือเรื่องการจ่ายค่าเช่า นับจากงวดเดือน กรกฎาคม 2566 ซึ่งจะมีการผ่อนผันหลังจากผิดนัดค่าเช่า โดยให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยมีมติอนุมัติเรื่องของการผ่อนกัน โดยแบ่งชำระเป็น 6 งวด งวดละเท่าๆ กัน โดยจะเริ่มชำระตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไปจนถึงงวดเดือนมิถุนายน 2567 โดยจะชำระในวันครบกำหนดชำระค่าเช่าตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาเช่าหลัก
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดสำคัญเรื่องวาระเสนอการขยายอายุของสัญญาค่าเช่า หลังจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 29 มกราคม 2575 ไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2581 และกำหนดอัตราค่าเช่าตั้งแต่ วันที่ 30 มกราคม 2575 จนถึง 31 ธันวาคม 2575 ดังนั้นก็ต้องติดตามในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ว่าวาระสำคัญทั้งหมดนี้ว่าผู้ถือหน่วยจะเห็นชอบด้วยหรือไม่
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า โดยปกติเหตุผิดนัดสัญญาสินเชื่อมีระยะเวลา 30 วัน ในการแก้ไข หากยังแก้ไขไม่ได้ จึงจะจัดชั้นเป็น Stage 2 (เกิน 90 วันจึงเป็น NPL) เพียงแต่กรณีนี้เป็นการไม่จ่ายค่าเช่าฯ ของ TTTB กับ JASIF จึงทำให้เกิดเหตุตามข้างต้น ซึ่งบริษัทจัดการกองทุนฯ อยู่ระหว่างขอทำเรื่องผ่อนผัน ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/2566 ทาง JASIF มีภาระหนี้กับสถาบันการเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท และสินทรัพย์ 9.6 หมื่นล้านบาท ในเชิงงบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) ไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท และงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (CFF) อาทิ จ่ายดอกเบี้ย 208 ล้านบาท และจ่ายคืนเงินกู้ 288 ล้านบาท
ขณะที่ในระยะถัดไป ฝ่ายวิจัยประเมินว่าธุรกรรมการเข้าซื้อ TTTB และหน่วยลงทุนใน JASIF ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หากได้รับอนุมัติ จะช่วยให้ศักยภาพของ JASIF ดีขึ้น