SPRC อัดฉีดงบลงทุน 500 ล้าน เพิ่มประสิทธิภาพ “โรงกลั่น” รับดีมานด์น้ำมันพุ่ง

นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ว่า ถึงทิศทางน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 น่าจะเป็นไปตามไปทิศทางของกลุ่มโอเปก ซึ่งกำลังดำเนินการทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับไปอยู่ในระดับ 80 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เห็นได้จากที่ซาอุดิอาระเบียยังใช้มาตรการลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันหลังสถานการณ์โควิด-19 จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จึงทำให้คาดว่าตลาดน้ำมันในหลังจากนี้ค่อนข้างตึงตัว

แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบอาจไม่สูงเหมือนในอดีตที่เคยไปแตะระดับ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากปัจจัยทางด้านธุรกิจที่มีความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับน้ำมันดิบที่ผลิตออกมาจากนอกกลุ่มโอเปก อย่างสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ยังออกมาได้ดี จึงทำให้ราคายังทรงๆอยู่ในระดับ 80 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นายศักดิ์ชัย มองว่าในช่วงไตรมาส 3/2566 น่าจะโอกาสของโรงกลั่น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มสูงขึ้น พร้อมๆกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ปัญหาการขาดทุนสต๊อกน้ำมันของ SPRC จะลดน้อยลงอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้ SPRC จะเพิ่มกำลังการผลิตให้มากที่สุดทั้งนี้ส่วนของน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเจ็ท ตอบรับความต้องการการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2566 ต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4/2566

ส่วนการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตน้ำมันให้ได้มาตรฐาน EURO 5 นั้น นายศักดิ์ชัย ชี้แจงว่า แม้จะปรับเปลี่ยนมาตรฐานการผลิตเป็น EURO 5  อาจส่งผลให้ขั้นตอน และกระบวนการปรับเปลี่ยนจะส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตน้ำมันสูงขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีนัยยะสำคัญต่อภาพรวมรายได้ของ SPRC เพราะหากคิดคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะอยู่เพียง 1-2 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น

ด้าน น.ส.นุสรา สมเกียรติวีระ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง SPRC เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของ SPRC ว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยจะอยู่ในวงเงินประมาณ 400 – 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่น และขบวนการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามผลของการลดลงในส่วนราคาน้ำมันในช่วงไตรมาส 2/2566 ทำให้ SPRC เกิดขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน ทำให้ค่าการกลั่นทางบัญชีติดลบ 1.45 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  เหตุผลมาจากส่วนต่างราคาต่อราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในสหรัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงส่งผลต่อความมั่นในการใช้น้ำมันของผู้บริโภค ส่วนภาพรวมค่าการกลั่นทางการตลาดครึ่งปีแรกของ SPRC อยู่ที่ 3.9 เปอร์บาร์เรล