SVR โชว์กำไร Q2 โต 69% พ่วงแจกปันผล 0.20 บาท จ่อขึ้น XD 23 ส.ค.นี้

บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/66 และงวด 6 เดือนแรกของปี 66 มีดังนี้

สำหรับ SVR รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13.76 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้รวมทั้งสิ้น 289.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.29 หรือ 128.11 ล้านบาท จาก 161.55 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากโครงการเพื่อขายและที่ดิน 288.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.53% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 160.89 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการที่เพิ่มขึ้นจาก 3โครงการ คือ โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู) และโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) และจากการขายที่ดินรอการพัฒนา จังหวัดภูเก็ต

ด้าน นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส SVR เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 504.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.29%  หรือเพิ่มขึ้น 208.09 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่มีรายได้ 296.03 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 47.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.49% หรือเพิ่มขึ้น 23.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.17 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 9.43% เมื่อเทียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 8.17%

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 289.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.29% หรือเพิ่มขึ้น 128.11 ล้านบาท จากงวดเดียวของปีก่อนที่ 161.55 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.57% หรือเพิ่มขึ้น 9.30 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.98 ล้านบาท

ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี2566 เป็นผลจากรายได้การโครงการเพื่อขายและที่ดิน จำนวน 503.23 ล้านบาท เติบโต 70.60 % หรือ 208.26 ล้านบาท จาก 294.97 ล้านบาท ของช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการทุกประเภทได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งรับรู้รายได้จาก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา – ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท – บางปู), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู) และโครงการ  สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) และจากการขายที่ดินรอการพัฒนา จังหวัดภูเก็ต แต่ในไตรมาส 2/2565 มีการรับรู้รายได้จำนวน 4  โครงการ

โดยจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุบสถิตครั้งใหม่จนสร้างสถิติ New High ให้บริษัทฯอย่างเนื่องในทุกไตรมาสนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งการพัฒนาในทุกๆโครงการของ SVR ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยกลุ่ม Real Demand ได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญหากพิจารณากำไรสุทธิ 6 เดือนแรก อยู่ที่ระดับ 47.50 ล้านบาท ซึ่งจะใกล้เคียงกับความสามารถในการกำไรในปี2565 ทั้งปีที่ระดับ 58.24 ล้านบาท

นอกจากนั้นตามแผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทฯ เตรียมเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,619 ล้านบาท  ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน-ชัยพฤกษ์) มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ที่เปิดดำเนินการแล้วในช่วงต้นส.ค.ที่ผ่านมา โดยเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 เป็นต้นไป

ส่วนอีก 2 โครงการ คือโครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท และโครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2566 ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาส 4/2566 นี้ และจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า จากปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงโอกาสการทุบสถิติใหม่ All-time High ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดสู่ระดับ High Growth ตามเป้าหมายที่ บริษัทฯ วางไว้

ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.66) ในอัตรา 0.20 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 102 ล้านบาท บาท โดยกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 24 สิงหาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 23 สิงหาคม 2566 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2566 ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 เติบโตขึ้น เป็นผลจากรายได้การโครงการเพื่อขายและที่ดิน อยู่ที่ 503.23 ล้านบาท หรือ 208.26 ล้านบาท เติบโต 70.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 294.97 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการทุกประเภทได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งรับรู้รายได้จาก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา – ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท – บางปู), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู) และโครงการ  สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) และจากการขายที่ดินรอการพัฒนา จังหวัดภูเก็ต แต่ในไตรมาส 2/2565 โดยมีการรับรู้รายได้จำนวน 4  โครงการ

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการเปิดโครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองแผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทเตรียมเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,619 ล้านบาท ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน-ชัยพฤกษ์) มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เปิดดำเนินการแล้วในช่วงต้น ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอีก2 โครงการที่เหลือ จะเปิดตัวช่วงไตรมาส 4/2566 คือโครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท และโครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะเริ่มทยอยรับรู้ได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที และมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า

ดังนั้นบริษัทฯ จึงมองว่า จากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดสู่ระดับ High Growth ตามเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ เนื่องจากหากพิจารณากำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี2566 แตะที่ระดับ 47.50 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกำไรสุทธิปี 2565 ที่ระดับ 58.24 ล้านบาท ดังนั้นจึงมองว่าจากผลการดำเนินงานในปี2566 จะโดดเด่นจนสามารถทุบสถิติใหม่ All-time High ไว้อย่างแน่นอน