NER โชว์กำไร Q2 โต 20% แตะ 457 ล้าน แจกปันผล 0.05 บ. ขึ้น XD 25 ส.ค.นี้

NER อวดกำไรไตรมาส 2/66 โต 20% แตะ 457 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 382 ล้านบาท พร้อมแจกปันผล 0.05 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 ส.ค.66 กำหนดจ่าย 8 ก.ย.66 แย้มครึ่งปีหลัง เน้นขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น มั่นใจปี 66 ยอดขายแตะ 500,000 ตัน


บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/66 และงวด 6 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เป็นเงินสดในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 92.39 ล้านบาท  โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2566

สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/2566 งวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีปริมาณขายรวม 129,479 ตัน เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 41,080 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.47  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 6,557.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,285.36 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.38 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 457.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 6.97 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 75.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566  เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 257,052 ตัน เพิ่มขึ้น 72,304 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 39.14%  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 12,811.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,947.15 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 17.92%  และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 771.59  ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.02% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 851.09 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 79.50 ล้านบาท ตามสถานการณ์ราคายางพาราในช่วงครึ่งปีแรก

“ถึงเป้าหมายการเติบโตในครึ่งปีหลังว่า บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีการขายสินค้าให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยฉพาะในจีน และสิงคโปร์” นายชูวิทย์ กล่าว

สำหรับภาพรวมปี 2566 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายสินค้าที่ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 515,600 ตัน เติบโตเมื่อเทียบกับปริมาณขายปี 2565 อยู่ที่ 446,090 ตัน โดยการเติบโตมาจากการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างๆ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในบริษัทฯ มีการวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการดำเนินงาน เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่มากขึ้นในอนาคต  ตลอดจนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานเพิ่มเติม โดยปัจจุบันบริษัทฯมีพลังงานหมุนเวียน คือ พลังงานจากแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์) และไบโอแก๊สที่ผลิตและใช้งานเองภายในบริษัท รวมกำลังการผลิต  8 เมกกะวัตต์  ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี

สำหรับในปี 2566 นี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืนปี 2 โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้สู่ดวงใจพนักงานผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น และจะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้  เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ

Back to top button