SICT โชว์รายได้ไตรมาส 2 แตะ 170 ล้านบาท ดันกำไรโต 9%
SICT เผยงบไตรมาส 2/66 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ลงทะเบียนสัตว์โตโดดเด่น หนุนรายได้แตะ 170 ล้านบาท ดันกำไรเพิ่ม 9% มาที่ 37 ล้านบาท
บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ออกแบบและจำหน่ายไมโครชิพอัจฉริยะสัญชาติไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2/66 ด้วยรายได้ 171.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกำไรสุทธิมีจำนวน 36.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 แม้ว่ามีความท้าทายจากภาคอุตสาหกรรมและความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก
โดยรายได้รวมของบริษัทในไตรมาสที่ 2/66 มีการเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์เป็นหลัก โดยกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) เติบโตขึ้นที่ 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนของรายได้รวมทั้งหมดมากที่สุด คือ 44% เป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาดระบบลงทะเบียนสัตว์อย่างต่อเนื่อง จากการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Identification tag) ในกลุ่มแกะและแพะในทวีปออสเตรเลีย และยังมีแนวโน้มในการใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมในกลุ่มประเทศอื่นๆเพิ่มเติม
ขณะที่กลุ่ม IoT ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial IoT) ในไตรมาสนี้เติบโตขึ้น 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการขยายตัวของลูกค้าในทวีปเอเชียและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็น 33% ของรายได้รวม กลุ่ม NFC และอื่นๆเติบโตขึ้น 246% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/65 จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่ม NFC เพื่อป้องกันการปลอมแปลง โดยในกลุ่มนี้มีสัดส่วน 2% ของรายได้รวม ทั้งนี้กลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (Immobilizer) มีรายได้ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามรอบการสั่งซื้อของลูกค้าหลักในทวีปยุโรป โดยมีสัดส่วนเป็น 21% ของรายได้รวม
ด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังการผลิตโดยรวม รวมถึงระดับสินค้าคงคลังของบริษัททั่วโลกที่เพิ่มขึ้นนั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงประเมินสถานการณ์อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และยังคงเป้าหมายในการเติบโตรายได้รวมของบริษัทในปี 66 อยู่ที่ 10-15%
ทั้งนี้บริษัทได้เร่งการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเดินทางพบปะลูกค้าและคู่ค้าในประเทศต่างๆเพื่อวางแผนการดำเนินงานร่วมกันภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าต่างๆ เช่น งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี ProPak Asia 2023 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14-17 มิ.ย.66 และงานเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ NEPCON Thailand 2023 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 21-24 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีไมโครชิป RFID และ NFC ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งโปรโมทผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
อีกทั้งบริษัทยังเดินหน้าพัฒนากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการสนับสนุนทุนการวิจัยและอุปกรณ์ต่างๆให้แก่สถาบันศึกษา ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืน นอกจากนี้บริษัทยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี 65 อีกด้วย