CHASE โกยกำไรไตรมาส 2 กว่า 40 ล้าน แย้มครึ่งปีหลังลุยซื้อ “หนี้” เต็มสูบ

นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE กล่าวว่า แม้ช่วงไตรมาส 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจติดตามหนี้ เนื่องจากลูกค้ามีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงวันหยุดยาวและการเปิดเทอมไตรมาสที่ผ่านมา แต่ภาพรวมการจัดเก็บหนี้ของบริษัทสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากกระบวนการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ และการเริ่มนำระบบ Auto Dialer มาใช้

ประกอบกับโอกาสในการประมูลซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเติมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 เติบโตโดดเด่น โดยบริษัทมีรายได้รวม 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 25%

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทสามารถจัดซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ตรวมกว่า 4,100 ล้านบาทแล้ว คิดเป็นเงินลงทุนราว 370 ล้านบาท โดยยังคงเน้นเป็นพอร์ตสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (unsecured loan) ซึ่งเป็นพอร์ตที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ตลอดจนมีอัตราการทำกำไรที่ดี

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะรักษาการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจบริหารหนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณของสถาบันการเงินมีแนวโน้มนำหนี้เสียออกมาประมูลขายจำนวนมากขึ้น ทั้งจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบของโรค COVID-19 ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2566 และหนี้ในระบบที่จะไหลตกชั้นเป็น NPLs ค่อนข้างสูง สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่บริษัทจะได้มูลหนี้ใหม่เข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการยื่นประมูลซื้อหนี้เพิ่มเติมอีก 2-3 ดีล มั่นใจเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารได้ครบตามเป้าหมายของเงินลงทุนที่วางไว้ที่ 1,000 ล้านบาทในปีนี้

อีกทั้ง ยังเชื่อว่ายอดจัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้น ผลบวกจากการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารต่อเนื่องในปี 2564-2565 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยเก็บหนี้ได้มากขึ้นและรับรู้เป็นรายได้ที่ชัดเจนในปีนี้