TKC โกยรายได้ทะลุ 1.34 พันล้าน ดันกำไร Q2 แตะ 75 ล้าน แย้มครึ่งหลังโตต่อ
TKC โกยรายได้ทะลุ 1.34 พันล้านบาท ดันกำไรไตรมาส 2/66 แตะ 75 ล้านบาท แย้มครึ่งหลังโตต่อ-ตุนแบ็กล็อกแน่น 3.7 พันล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ประมาณ 50% ปักธงรายได้ปีนี้โต 20%
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,349.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 737.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 120.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 612.33 ล้านบาท โดยรายได้หลักแบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการ 675.96 ล้านบาท และรายได้จากการขาย 453.22 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตโดดเด่น ขณะที่ มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 213.85 ล้านบาท
สำหรับกำไรสำหรับงวดผลประกอบการไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 75.44 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 4.79% จากไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 71.99 ล้านบาท
“ในงวดไตรมาส 2/66 ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 120.45% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการขายและรายได้จากงานโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน จำนวน 574.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.57% ของรายได้รวมเข้ามา ขณะที่ทิศทางงานโครงการยังคงเป็นไฮไลท์ที่ทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง” นายสยาม กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจยังมีทิศทางที่ดี เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้ เดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้เติบโตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 20% จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions โดยมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Farming, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Platform ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์กและเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ซึ่งในตอนนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว
ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 3,700 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 50% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทปัจจุบันมาจากลูกค้าเอกชน 35% และรัฐบาล 65% ซึ่งบริษัทก็มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 50% : 50% ในอนาคต
ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจด้าน Cyber Security ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 3-5% จากรายได้ทั้งหมด แต่ในปีถัดไปจะเติบโตในระดับ 2 Digit ไปอีก 5 ปีต่อจากนี้
โดยมองว่าในปี 2567 จะได้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนที่จะขยายสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เพิ่มเฉลี่ยอย่างน้อยปีละ 7-10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ประมาณ 20% ของพอร์ตรายได้รวม