XO แย้มยอดขาย “ซอสพริก” ทะลุ 350 ตู้ ตั้งเป้ารายได้ใหม่ปี 66 โตเกิน 30%
XO เผยยอดขายซอสพริกในไตรมาส 3/66 พุ่งแตะ 350 ตู้ ตอกย้ำครึ่งปีหลังเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นมีการปรับเป้ารายได้ใหม่ของปี 2566 มีโอกาสเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และปีหน้าจะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่งวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 309.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.82%
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยข้อมูลถึงภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2566 กล่าวว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 616.26 เพิ่มขึ้น 57.36% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 391.62 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 212.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 94.81 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 1,011.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 739.37 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 309.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 189.97%
นายจิตติพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ยอดขายสินค้าปรับตัวขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภท น้ำจิ้มไก่ ซอสพริก ซึ่งมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 89.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของครึ่งแรกปี 2565 อยู่ที่ 87.8% ขณะที่เทียบกับช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯใหม่ๆ ส่วนแบ่งกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 50% แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯเดินมาถูกทาง
รองลงมาเป็นกลุ่มพวกเครื่องแกง กะทิ มีส่วนแบ่งครึ่งแรกปี 2566 อยู่ที่ 6.2% ถัดมาเป็นกลุ่มพวกแกงกระป๋อง ซึ่งในครึ่งแรกปี 2566 มีส่วนแบ่งยอดขายเหลือไม่ถึง 1% และกลุ่มซื้อมาขายไปมีส่วนแบ่งยอดขายครึ่งแรกปี 2566 อยู่ที่ 4% เทียบกับครึ่งแรกปี 2565 อยู่ที่ 5.1%
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายจากลุ่มลูกค้าตามสัดส่วน ได้แก่ ลูกค้าทวีปยุโรปสัดส่วน 75.3%, ลูกค้าอเมริกาสัดส่วน 7-8%, ลูกค้าทวีปเอเชียสัดส่วน 6.5%, ลูกค้าโอเชียเนียสัดส่วน 6.4%, ลูกค้าแอฟริกาสัดส่วน 1.3% และลูกค้ากลุ่มประเทศอื่นๆ เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามเมื่อตอนต้นปีบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2566 เติบโต 10% แต่ตอนนี้โตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ดังนั้นมีการปรับเป้ารายได้ใหม่ของปี 2566 มีโอกาสเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และปีหน้าจะเติบโตต่อเนื่อง เหตุผลเพราะมีโปรเจ็กต์กับลูกค้าที่ยังไม่เข้า ยกตัวอย่างที่อเมริกา บริษัทฯ อยู่ในช่วงการทำตลาดแบบดั้งเดิม และเดินหน้าตลาดสมัยใหม่ซึ่งจะเริ่มทำประมาณไตรมาส 4 หรือต้นปีหน้า เพราะฉะนั้นออเดอร์ที่เห็นทั้งหมดนี้ ยังไม่ได้แตะตลาดหลักแต่มี XO เชื่อว่า อาหารไทยจะกลายเป็น THENEXT MEGA FOODTREND เพราะอาหารที่ขายทั่วโลกนั้นมีมานานแล้ว อาทิเช่น อาหารจีน อาหารอิตาเลียน มีขายทุกที่ ช่วงหลังอาหารญี่ปุ่นก็เริ่มเข้ามา ถ้ากระแสอาหารไทยมา ขณะเดียวกันที่ XO เป็นซอสจากประเทศไทย บวกกับกระแสซอสพริกก็มาแรง เพราะฉะนั้นสองอันรวมกัน จะทำให้ยอดขายในอนาคตดีอย่างเห็นได้ชัด”นายจิตติพร กล่าว
นายจิตติพร กล่าวทิ้งท้าย แม้จะอยู่ในช่วง Traditional trade แต่ยอดขายในทวีปอเมริกาตอนนี้อยู่ที่ 10.5% จากยอดขายโดยรวม และของที่ส่งไปเป็นคำสั่งซื้อล่วงหน้าทั้งหมด แม้พึ่งเริ่มจำหน่ายในไตรมาส 2/2566 แนวโน้มไตรมาส 3/2566 ไม่ต่ำกว่า 350 ตู้ และมากกว่าไตรมาส 2/2566 พร้อมเดินหน้าสร้างโรงงานใหม่กลางปีหน้าโดยครึ่งปีหลังมีแผนการจะเริ่ม Modern tradeในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า