SET ปิดเช้าลบ 6 จุด ตามต่างประเทศ หลัง “บอนด์ยีลด์” พุ่ง 4%
SET ปิดเช้าลบ 6 จุด ตามตลาดต่างประเทศ เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง 4% นิวไฮในรอบ 15 ปี และเอเวอร์แกรนด์ยื่นล้มละลายเข้ามากดดัน มองบ่ายนี้ ประคองตัวถึงดีดตัวขึ้นจากการกลับเข้ามาเก็งกำไรก่อนเข้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยในวันอังคารที่ 22 ส.ค.นี้ แนวรับที่ 1,515 จุด แนวต้าน 1,532-1,540 จุด
ตลาดหุ้นไทย ปิดภาคเช้าวันนี้ (18 ส.ค. 66) อยู่ที่ 1,523.19 จุด ลดลง 5.62 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 23,055 ล้านบาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงภาคเช้าแกว่งตัวผันผวน ตามปัจจัยในต่างประเทศหลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐออกมาลดลง และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.4 แสนราย หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปี พุ่งทะลุ 4.3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจาก บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย
ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ ประคองตัวถึงดีดตัวขึ้น จากการกลับเข้ามาเก็งกำไรก่อนเข้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยในวันอังคารที่ 22 ส.ค.นี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,515 จุด และแนวต้าน 1,532-1,540 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,651.65 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
WHA มูลค่าการซื้อขาย 1,331.90 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 677.24 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 666.02 ล้านบาท ปิดที่ 19.60 บาท ลดลง 0.20 บาท
HANA มูลค่าการซื้อขาย 664.47 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ลดลง 0.25 บาท