สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ส.ค.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ส.ค.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (18 ส.ค.) โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปลอดภัยได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,500.66 จุด เพิ่มขึ้น 25.83 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,369.71 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,290.78 จุด ลดลง 26.16 จุด หรือ -0.20%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (18 ส.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเฮลท์แคร์ถ่วงตลาดลง ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงทั่วโลก ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 448.44 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.61%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,164.11 จุด ลดลง 27.63 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,574.26 จุด ลดลง 102.64 จุด หรือ -0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,262.43 จุด ลดลง 47.78 จุด หรือ -0.65%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (18 ส.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในจีน และยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,262.43 จุด ลดลง 47.78 จุด หรือ -0.65% และร่วงลง 3.5% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (18 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากภาวะตลาดน้ำมันที่ตึงตัว แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 8 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันจากจีน และราคาถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น และการแข็งค่าของดอลลาร์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 84.80 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้เช่นกัน
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (18 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐและการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้กระตุ้นแรงซื้อสัญญาทองคำ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,916.50 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ยังคงลดลง 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.80 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 22.733 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 19.40 ดอลลาร์ หรือ 2.17% ปิดที่ 915.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 39.50 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 1,260 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (18 ส.ค.) หลังจากยูโรโซนเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 103.3831
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน, ยูโร, ปอนด์ และดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสและโครนาสวีเดน
ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 145.2980 เยนในวันศุกร์ (18 ส.ค.) จากระดับ 146.0890 เยนในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3545 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3546 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 0.8824 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.8797 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 10.9709 โครนาสวีเดน จาก 10.9363 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0878 ดอลลาร์ในวันศุกร์ จากระดับ 1.0857 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2740 ดอลลาร์ จาก 1.2728 ดอลลาร์