“ทักษิณ” ถึงเรือนจำแล้ว หลังศาลฯสั่งจำคุก 8 ปี
"ทักษิณ ชินวัตร" เดินทางถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพท่ามกลางมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาใน 3 คดี สั่งจำคุกรวม 8 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 22 ส.ค.66 เวลา 11:00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มาให้กำลังใจ หลังก่อนหน้านี้ ช่วงเวลา 10:20 น. ได้เดินทางไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายทักษิณ ขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้อ่านสรุปคำพิพากษาใน 3 คดี ต่อหน้านายทักษิณ อันถือเป็นการยืนยันการมาปรากฎตัวต่อหน้าศาล หลังจากนั้นจะออกหมายขัง และให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับตัว เพื่อส่งไปควบคุมที่เรือนจำ หรือสถานกักขังตามคำพิพากษาของศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เผยแพร่ประกาศระบุว่า วันนี้เวลา 10.40 นาฬิกา พันตำรวจเอกคมวุฒิ จองบุญวัฒนา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานกรุงเทพ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้นำบุคคลตามหมายจับ (นายทักษิณ ชินวัตร) มาส่งต่อศาล ซึ่งผู้รับมอบอำนาจโจทก์ทั้งสามคดียืนยันว่า บุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลเป็นจำเลย หรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี จำเลยหรือจำเลยที่ 1 รับว่าเป็นจำเลยในคดีทั้งสาม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตรวจสอบบุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลแล้ว เป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี ดังนี้
1.คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พันตำรวจโททักษิณ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
2.คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พันตำรวจโททักษิณหรือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน จำเลย
3.คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ พันตำรวจโททักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย จึงรับตัวจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดีดังกล่าวไว้
ศาลได้แจ้งให้จำเลยหรือจำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้ว โดยคดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี , คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ลงโทษจำคุก 2 ปี , และคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ลงโทษจำคุกรวม 5 ปี นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 โดยศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในแต่ละคดีแล้ว
มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการนับโทษต่อคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ให้นับโทษต่อ (คดีที่ 1 = 3 ปี, คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน) เเต่ให้นับโทษต่อคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 จึงรวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี
สำหรับทั้ง 3 คดี ที่ศาลพิพากษา ได้แก่
1.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551
2.คดีหวยบนดิน เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552
3.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551