TTA ท็อป 5 เรือขนส่ง การันตีประสบการณ์ 119 ปี

“โทรีเซน ชิปปิ้ง” ผู้นำธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางเรือระดับท็อป 5 ของโลก ประสบการณ์ยาวนาน 119 ปี พร้อมความเชี่ยวชาญด้านขนส่งท่อก๊าซปิโตรเลียม


บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซี จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ผู้นำกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ ภายใต้การบริหารของ โทรีเซน ชิปปิ้ง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแห้งเทกองระหว่างประเทศชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมานานถึง 119 ปี โดยเป็นเจ้าของกองเรือ จำนวน 24 ลำ (เรือซุปราแมกซ์ จำนวน 22 ลำ และเรืออัลตราแมกซ์ จำนวน 2 ลำ) มีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 55,913 เดทเวทตัน (DWT) และมีอายุเฉลี่ย 15.2 ปี (ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2566)

สำหรับ โทรีเซน ชิปปิ้ง ให้บริการตามความต้องการของลูกค้า ได้แก่ บริการให้เช่าเรือตามราคาตลาด (Spot rate) สำหรับการเช่าเรือแบบระยะเวลา (Time Charter) และการเช่าเรือแบบรายเที่ยว (Voyage Charter) และการบริการให้เช่าเรือตามการเซ็นสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้า (Contracts of Affreightment หรือ COA) และสามารถครองตำแหน่งผู้ให้บริการขนส่งทางเรือที่มีอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าดีที่สุดในโลกในระดับ Top 5 จากรายงาน Vessel index โดยองค์กรที่ปรึกษาอิสระด้านการเดินเรือ Liengaard & Roschmann

นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำด้านบริการขนส่งท่อนซุงในภูมิภาคเอเชีย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งท่อก๊าซปิโตรเลียมที่มีชื่อเสียงรายหนึ่งของโลก โดยที่บุคลากรบนเรือเกือบร้อยเปอร์เซ็นเป็นคนไทยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง

ทั้งนี้ โทรีเซน ชิปปิ้ง ปฎิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งทางเรืออย่างเคร่งครัดและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ โดยมีการกำหนดแผนงานการบริหารจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมไว้อย่างชัดเจน ได้แก่

  1. แผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 5% ในปี พ.ศ. 2566 และ 2% ในปี 2567
  2. พัฒนาและปรับปรุงการจัดการกองเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้กับคนประจำเรือ
  3. ติดตั้งอุปกรณ์ปรับรอบเครื่องยนต์เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินเรือ ความเร็วที่เหมาะสม และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. เปลี่ยนมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ (VLSFO) ซึ่งลดการปล่อยกำมะถันจาก 3.5% เป็น 0.5%
  5. ติดตั้งระบบบำบัดน้ำอับเฉาหรือน้ำถ่วงเรือ (Ballast water treatment)
  6. มีการนำเทคโนโลยี Energy Saving Devices มาใช้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์สู่ชั้นบรรยากาศ (CO2 Emission Control) โดยตั้งเป้าลดการปล่อย CO2 ในปี 2566 ให้เหลือ 5%
  7. จัดโครงการ “Stop Plastic Water Bottled Campaign บอกลาขวดน้ำพลาสติก” รณรงค์ลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกบนเรือ โดยให้พนักงานทั้งที่สำนักงานใหญ่และพนักงานประจำเรือหันมาใช้แก้วน้ำส่วนตัวแทน

ด้านส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาเยาวชน โทรีเซน ชิปปิ้ง ได้ร่วมพัฒนาหลักสูตรธุรกิจพาณิชย์นาวีแบบทวิภาคี โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลิตนิสิตนักศึกษาที่มีความรู้และทักษะสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุสาหกรรมการขนส่งทางเรือ พร้อมเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษามาฝึกงานบนเรือของโทรีเซน ชิปปิ้ง และเมื่อจบการศึกษาสามารถพิจารณาทำงานได้ทันที

นอกจากนี้ร่วมกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทยหลายแห่งจัดทำหลักสูตรทวิภาคี เพื่อปั้นบุคลากรมืออาชีพในสายธุรกิจขนส่งทางเรือ ซึ่งปรากฎว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง  มีผู้บริหารและพนักงานบนเรือที่ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรทวิภาคี และเข้าทำงานกับบริษัทฯ จนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน

รวมถึงการร่วมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช พัฒนาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาประกอบอาหารในเรือเดินระหว่างประเทศตามหลักโภชนาการ เพื่อผลิตบุคคลากรคนครัวบนเรือเดินทะเลในระดับมืออาชีพ และหลักสูตรนี้เป็น 1 ใน 50 สาขาที่ได้รับคำชื่นชมจากกระทรวงศึกษาธิการและอาชีวศึกษา ปัจจุบันมีนักศึกษาที่จบหลักสูตรทั้งหมด 7 รุ่น จำนวนมากกว่า 100 คน

พร้อมกันนี้ โทรีเซน ชิปปิ้ง ยังมีการจัดทำหลักสูตรทวิภาคี ร่วมกับ สถาบันการศึกษา ได้แก่ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กรมเจ้าท่า, คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา, คณะพาณิชย์นาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, วิทยาลัยเทคโนโลยี อุตสาหกรรมการต่อเรือ นครศรีธรรมราช, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย, วิทยาลัยทางทะเลแห่งเอเชีย (AMCOL), เทคนิคภูเก็ต, วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ และวิทยาลัยอาชีวนครศรีธรรมราช ปัจจุบันมีนักศึกษาที่จบหลักสูตรทวิภาคี จำนวนมากกว่า 300 คน

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ โทรีเซน ชิปปิ้ง ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานพาณิชย์นาวีในประเทศไทยอีก 11 แห่ง เพื่อพัฒนาหลักสูตร ทวิภาคีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพาณิชย์นาวี รองรับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศไทย

สำหรับแผนการขยายธุรกิจ โทรีเซน ชิปปิ้ง ยังคงสร้างผลกำไรให้กับ TTA Group อย่างต่อเนื่อง และได้วางแผนการลงทุนพัฒนากองเรือให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ และขยายฐานลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน โทรีเซน ชิปปิ้ง สามารถขยายฐานลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งท่อนซุงจากประเทศนิวซีแลนด์ไปประเทศจีน รวมถึงการรุกให้บริการขนส่งสินค้าปูนซีเมนต์จากประเทศตุรกีไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้จัดตั้งทีมงานในประเทศออสเตรเลีย และอังกฤษ เพื่อขยายธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่ม

โดยปัจจุบันกองเรือทั้งหมดจะได้รับการบริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และ มีสาขาด้านการตลาด ในประเทศสิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอังกฤษ

Back to top button