ILM ดีเดย์เปิดสาขา “ภูเก็ต” โฉมใหม่ หวังดันยอดขายโต 30%
ILM พร้อมเปิดบริการสาขาภูเก็ตโฉมใหม่ หลังทุ่ม 70 ล้านบาท รีโนเวทครั้งใหญ่ คาดดันยอดขายเติบโต 30% ส่วนไตรมาส 4/66 เดินหน้าติด “Solar Rooftop” งบลงทุน 10 ล้านบาท
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนกลยุทธ์การขับเคลื่อน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สู่ Lifestyle Mall แห่งอนาคตกับ “ENJOY A NEW EXPERIENCE IN PHUKET….MORE THAN EVER” มอบความครบครันทุกไลฟ์สไตล์โซลูชั่นเพื่อการอยู่อาศัย
โดยทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาท ปรับโฉมครั้งใหญ่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาภูเก็ต ในรอบ 19 ปี สู่ความเป็น ที่สุดของเฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ จุดหมายใหม่ของคนรักบ้าน และกลุ่มธุรกิจที่ชื่นชอบการตกแต่ง รองรับทุกความต้องการของทุกคน รวมถึงขานรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างเต็มรูปแบบทั้งธุรกิจโรงแรม & รีสอร์ท, วิลล่า, ออฟฟิศ, ร้านอาหาร ฯลฯ พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการวันนี้
ขณะเดียวกัน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาภูเก็ต ยังเป็น Top 3 ของกลุ่มสโตร์ทัวร์ริสต์ที่มีศักยภาพที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดให้บริการมา 19 ปี ล่าสุดได้ทรานส์ฟอร์มรีโนเวทเพิ่มแบรนด์สินค้าเติมเต็มทุกความต้องการให้เป็นเดสติเนชั่นอันดับ 1 เรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่และดีที่สุดในภาคใต้ เพื่อรองรับภาคเศษฐกิจที่กำลังเติบโตในทุกมิติสอดรับกับแผนพัฒนาของจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การศึกษา และนวัตกรรมบริการ ในระดับมาตรฐานนานาชาติ
พร้อมทั้ง การพัฒนาที่ยั่งยืนเช่น มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยว, พัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพอนามัย-การบริการทางการแพทย์, เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเพื่อรองรับการจัดกิจกรรม & นิทรรศการระดับนานาชาติ, พัฒนาสู่ศูนย์กลางของการศึกษานานาชาติระดับอาเซียน รวมถึงพัฒนาสู่การเป็นเมือง Smart City ที่ทันสมัยในทุกๆด้าน ฯลฯ
นางสาวกฤษชนก กล่าวว่า สัญญาณบวกจากสถานการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตดีอย่างก้าวกระโดด โดยพบว่าครึ่งปีแรกปี 66 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติของทะเลอันงดงาม, สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต กว่า 6 ล้านคน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ครองอันดับ 1 คือรัสเซีย ด้วยจำนวน 387,329 คน ตามด้วยอินเดีย 116,181 คน
ด้านพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรัสเซียจะใช้ระยะเวลาอยู่อาศัยตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 1 ปี ในรูปแบบการพักอาศัยโรงแรมระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่มีกำลังซื้อสูงก็เลือกซื้ออสังหาฯ ประเภทคอนโด, วิลล่า, โครงการแนวราบ รวมถึงเรือยอร์ช ซึ่งปัจจุบันโครงการอสังหาฯ ในภูเก็ตเติบโตพุ่งสูงถึง 3 เท่าตัว และครึ่งหนึ่งของอสังหาฯ เป็นการจับจองของนักท่องเที่ยวรัสเซีย ย่านที่ได้รับความสนใจคือ บริเวณตำบลเชิงทะเล ที่ลากูน่า และลายัน ต.วิชิต ที่เขาขาด ต.ฉลอง ต.ราไวย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ภูเก็ตขึ้นแท่นเป็นเมืองทัวร์ริสต์ที่ลูกค้าต่างชาติมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด รองลงมาคือจังหวัดชลบุรีและเชียงใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ที่ระบุว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดมีการเปิดตัวโครงการจัดสรรเป็นอันดับ 1 ซึ่งมีหน่วยเสนอขาย 4,550 หน่วย รองลงมาคือจ.สงขลา 3,650 หน่วย, จ.สุราษฎร์ธานี 2,800 หน่วย และจ.นครศรีธรรมราช 1,900 หน่วย ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตยังคงเป็นจังหวัดที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่และหน่วยเสนอขายมากที่สุดคือ 3,690 หน่วย คิดเป็น 80% ของจำนวนคอนโดที่เปิดขายทั้งหมดใน 4 จังหวัดข้างต้น
ในปัจจุบันดีมานด์อสังหาฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องทั้งเพื่อซื้อสำหรับอยู่อาศัยจริง และเพื่อลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสการเติบโตจากปัจจัยการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและศักยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางอากาศและรถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ จ.พังงาและกระบี่ได้อีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ จึงใช้โอกาสนี้ต่อยอด อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ภูเก็ต ให้เป็นแลนด์มาร์คของคนรักบ้านที่รวมทุกความต้องการทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบจบในที่เดียว คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายเติบโตได้ 30% ในปีแรกหลังการปรับโฉมสโตร์
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีตอกย้ำการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยใช้พลังงานสะอาดจากการติด Solar Rooftop ด้วยงบลงทุนกว่า 10.6 ลบ. มีกำลังการผลิต 467 กิโลวัตต์ และคาดจะผลิตไฟฟ้าได้ราว 654,491 กิโลวัตต์ ซึ่งจะเริ่มใช้ในไตรมาส 4/66