AH-NYT ท็อปพิก! รับยอดส่งออก “ชิ้นส่วนยานยนต์” โตแกร่ง

AH-NYT ยิ้มรับยอดผลิตรถยนต์ของประเทศไทยขยายตัว 4.7% เดือน ก.ค.66 ลุ้นปีนี้ยอดผลิตรถยนต์แตะ 1.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.7% จะช่วยให้บริษัทยานยนต์มี “กำไร-รายได้” เติบโตก้าวกระโดด


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ก.ค.2566 อยู่ที่ 108,052 คัน เพิ่มขึ้น 30.05% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 90,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 21.32%

โดยสาเหตุที่การส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 แสนคัน เป็นผลจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถยนต์คลี่คลาย ทำให้สถานการณ์การผลิตเริ่มกลับมาสู่ระดับปกติ

ทั้งนี้ ส.อ.ท.คาดว่าในปี 2566 จะสามารถส่งออกรถยนต์ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.05 ล้านคัน ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่ากับในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 ส่วนยอดส่งออกเดือน ก.ค.ยังเติบโตได้ดี หลังปัญหาขาดแคลนชิปคลี่คลาย และการส่งออกรถยนต์ยังเป็นสินค้าสำคัญที่ช่วยหนุนให้การส่งออกของประเทศปีนี้เติบโต

สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในเดือนกรกฎาคมจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง 30% เพราะสถานการณ์ด้านอุปทาน semi-conductor กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจาก NPLs พุ่งสูงขึ้น

ด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่ายอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (HP) และ NPL ในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 1.196 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 2.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ

ทั้งนี้ NPLs ของสินเชื่อ HP รถยนต์อยู่ที่ 2.05% ของสินเชื่อรถยนต์รวม ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบสามปี โดย NPLs เริ่มขยับสูงขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 และอาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องเพราะสภาวะตลาดโดยรวมยังไม่ชัดเจน คาดว่า NPL ของสินเชื่อ HP รถยนต์จะไต่ขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดในรอบแปดปีในไตรมาสหน้า

โดยยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลง 5.5% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน และอาจจะลดลงไปอีกจนถึงสิ้นปี ถ้าหากว่า NPL ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังกับการอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ซื้อรถ ในขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 17.6% ตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น ยอดขายรถยนต์ในประเทศอาจพลาดประมาณการของเราในปีนี้อยู่ที่ 0.82 ล้านคัน ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม นั่นจะถูกชดเชยด้วยการส่งออกที่แข็งแกร่งเกินคาดที่ 1.08 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 8% ในหมายเหตุนี้ โดยคงการคาดการณ์การผลิตรถยนต์ไว้ที่ 1.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.7% สำหรับปีนี้ ซึ่งน่าจะช่วยให้บริษัทยานยนต์ภายใต้ความคุ้มครองของเรามีการเติบโตของกำไรในปีนี้ โดยยังคงเลือก บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH และบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เนื่องจากบริษัทจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการส่งออกรถยนต์ที่แข็งแกร่ง

บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ระบุว่า ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักของ NYT ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 36% เป็น 382 ล้านบาท และในปี 2567 เพิ่มขึ้นอีก 25% อยู่ที่ 406 ล้านบาท โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 5 บาท

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ระบุว่า แนวโน้มกำไรของ AH จะเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.8 พันล้านบาทในปี 2566 จากคำสั่งซื้อใหม่ และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงงานในประเทศจีน แม้ว่าบริษัทจะเสียส่วนแบ่งกำไรจาก Hyundai Motor (Thailand) ไปกว่า 82 ล้านบาทในปีนี้ ทั้งนี้ยังคงให้ราคาเป้าหมายที่ 41 บาท

นอกจากนี้ยังมี บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อาทิ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT, AH  และกลุ่มให้บริการท่าเทียบเรือที่มีปริมาณการส่งออกรถยนต์ อาทิ NYT (ใน 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมี Market share 80%)

Back to top button