SENA ส่งซิกครึ่งหลังแจ่ม! เร่งผุด 18 โครงการใหม่ 2.4 หมื่นลบ. ตุนแบ็กล็อก 6.4 พันล้าน

SENA ส่งซิกครึ่งหลังแจ่ม หลังการเมืองชัดเจน-ลูกค้าต่างชาติหนุน ลุยผุด 18 โครงการใหม่ 2.4 หมื่นล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 6.4 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้จำนวน 4.34 พันล้านบาท แย้มเจรจาซื้อที่ดินผุด 2 โกดัง ลุยธุรกิจคลังสินค้าต้นปีหน้า พ่วงสบายปีกธุรกิจโรงแรม-พูลวิลล่า เสริมแกร่งธุรกิจเติบโตยั่งยืน


น.ส.อธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวสลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 25 ส.ค. 2566 เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 4,427 ล้านบาท  โดยมาจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,840 ล้านบาท, ธุรกิจเช่าและบริการ 307 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจโซลาร์ 280 ล้านบาท ผลดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 239 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 2566 คาดจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกจากปัจจัยในเรื่องของการเมืองที่มีความชัดเจนทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการกล้าที่จะใช้จ่าย อีกทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตลาดต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาขับเคลื่อนตลาด โดยเฉพาะกำลังซื้อจากประเทศจีน, ฮ่องกง, รัสเซีย และพม่า มากขึ้นเนื่องจากบริษัทได้จัดทีมขาย “อินเตอร์เซล” เพื่อไปเปิดบูธในกลุ่มต่างชาติดังกล่าวมากขึ้น

สำหรับยอดขาย (Presale) งวด 6 เดือนปี 2566 กลุ่มบริษัทสร้างยอดขายได้ประมาณ 5,383 ล้านบาท โดยประกอบด้วยยอดขายของโครงการที่ไม่ได้อยู่ในกิจการร่วมค้า 1,325 ล้านบาท และยอดขายของโครงการที่อยู่ภายใต้กิจการร่วมค้า จำนวน 4,058 ล้านบาท

ขณะที่ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2566 มีมูลค่ารวมประมาณ 6,446 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ใน 3 ปี สำหรับปี 2566 รับรู้รายได้ประมาณ 4,342 ล้านบาท ต่อไปในปี 2567 ประมาณ 1,993 ล้านบาท  และในปี 2568 ประมาณ 111 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ไว้ที่ 18,200 ล้านบาท และบริษัทยังคงเป้าหมายยอดโอนปีนี้ไว้ที่ 16,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในปีนี้มีแผนเปิดโครงการทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 28,782 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก 2566 เปิดไปแล้ว 6 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวม 4,371 ล้านบาท ส่วนแผนในครึ่งหลังปี 2566 เตรียมเปิดอีก 18 โครงการ รวมมูลค่า 24,411 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาส 3/2566 จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,111 ล้านบาท และในไตรมาส 4/2566 จำนวน 13 โครงการ รวมมูลค่า 19,300 ล้านบาท

น.ส.อธิกา กล่าวอีกว่า จากวิสัยทัศน์ในการเป็น The Essential Lifelong Trusted Partner ที่เข้าถึงลูกค้าได้ในทุกช่วงวัย และทางเสนายึดถือมาตลอดนั่นก็คือ “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” ทำให้ SENA กำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กรในอนาคต “เสนาพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของลูกค้าในทุกช่วงอายุและมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ผ่านกลยุทธ์ 2 รูปแบบ คือ 1. Convenient Living ใส่ใจเรื่องความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยมุ่งมั่นพัฒนารูปแบบการอยู่อาศัยใหม่ และ 2. Sustainable Living ใส่ใจเรื่องการใช้ชีวิตให้ยั่งยืนทั้งเรื่องเงินและเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิด SMART CITY มาใช้พัฒนาFeature ต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านของเราใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนได้ง่ายๆ ภายใต้แนวคิด “บ้านพลังงานเป็น 0” หรือ Zero Energy House (ZEH)

นอกเหนือจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (RESIDENCES) บริษัทก็ยังกระจายความเสี่ยงธุรกิจเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเพิ่มเติม อาทิ 1.ธุรกิจการบริการการบริหารงานนิติบุคคล, 2.ธุรกิจการบริการด้านสินเชื่อ โดย บริษัท เงินสดใจดีจำกัด ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากธนาคารแห่งประเทศเพื่อดำเนินธุรกิจ การทำเช่าซื้อ คอนโด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการการขายและการรับรู้รายได้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย, 3.ธุรกิจการบริการด้านการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย, 4.ธุรกิจการบริการสุขภาพบริษัทได้จัดตั้งบริษัท บริษัท เอส.เจ. เฮลธ์แคร์ จำกัด เพื่อเตรียมดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและผู้สูงอายุ,

5.ธุรกิจด้านพลังงานสะอาด ภายใต้บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัดมีการขยายความร่วมมือ Shizen ภายใต้กรอบความร่วมมือ JVA เพื่อขยายธุรกิจการให้บริการโซลาร์ครบวงจรทั้งในรูปแบบ Private PPA และ EPC 6.ธุรกิจด้านการปลูกป่า ทางบริษัทได้รับสัมปทานใบอนุญาตในการเข้าใช้พื้นที่กว่า 40,000 ไร่ ในจังหวัดแพร่กับกำแพงเพชร โดยขณะนี้อยู่ที่ระหว่างการดำเนินการรายละเอียดการปลูกป่าและดำเนินการตามเงื่อนไข และ 7.ธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ โดยปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้าให้เช่าขนาดพื้นที่ 16,500 ตารางเมตร บริเวณถนนสุขุมวิท 50 มีอัตราการเช่า 90% และมีแผนขยายคลังสินค้า อีกกว่า 30,000 ตารางเมตร

“สำหรับความคืบหน้าธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่ม METROBOX เดินหน้าต่อเนื่อง โดยล่าสุดธุรกิจธุรกิจคลังสินค้าขณะนี้นำร่องเปิด 2 โกดัง โดยโกดังแรกซื้อที่ดินมาแล้วอยู่ในนิมคมอุตสาหกรรมอมตะ ส่วนอีกโกดังอยู่ระหว่างการวางมัดจำที่ดินและตกลงกับลูกค้า โดยคาดว่าโกดังทั้งสองแห่งจะชัดเจนในต้นปีหน้า นอกจากนี้มีแผนเปิดธุรกิจโรงแรม โดยเล็งพื้นที่ “พัทยาคันทรี่คลับ” คาดว่าจะเหมาะเพื่อพัฒนาเป็นโฮเทลและพูลวิลล่าเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการ” น.ส.อธิกา กล่าว

Back to top button