KBANK คาดกรอบ “เงินบาท” สัปดาห์หน้า 34.90-35.50 จับตาโฟลว์ต่างชาติ-การเมืองไทย
KBANK มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า 34.90-35.50 บาท รอความคืบหน้าการเมือง ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และค่าเงินหยวน
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (28 ส.ค.-1 ก.ย.) ไว้ที่ระดับ 34.90-35.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.ค. ปัจจัยทางการเมืองของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) และค่าเงินหยวน
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือนส.ค. ผลสำรวจแรงงาน JOLTS ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือนก.ค. และจีดีพีไตรมาส 2/66 (prelim.) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 34.84 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ และสามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ แม้จะมีปัจจัยลบจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 ของไทยที่ชะลอลงมากกว่าที่ตลาดคาด โดยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติท่ามกลางความหวังว่าน่าจะมีการเดินหน้าของกระบวนการทางการเมืองไทยและเตรียมการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดีกรอบการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากตัวเลขการส่งออกไทยเดือนก.ค.หดตัวมากกว่าที่คาด ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
ขณะที่เงินดอลลาร์มีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ หลังตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สะท้อนสัญญาณตึงตัวของตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังคงมีท่าทีหนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดในงานสัมมนาประจำปีของเฟดด้วยเช่นกัน
โดยในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.66 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับ 35.37 บาท/ดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 ส.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 21-25 ส.ค.66 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,204 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 4,700 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 5,059 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 359 ล้านบาท)