สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ส.ค.2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 ส.ค.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยนักลงทุนได้ปรับตัวรับความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ขณะที่รับประกันว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,346.90 จุด เพิ่มขึ้น 247.48 จุด หรือ +0.73%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.71 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,590.65 จุด เพิ่มขึ้น 126.67 จุด หรือ +0.94%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันศุกร์ (25 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 451.39 จุด ลดลง 0.18 จุด หรือ -0.04%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,229.60 จุด เพิ่มขึ้น 15.14 จุด หรือ +0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,631.82 จุด เพิ่มขึ้น 10.33 จุด หรือ +0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.95 จุด หรือ +0.07%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (25 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.95 จุด หรือ +0.07%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 ส.ค.) สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดีเซลของสหรัฐที่พุ่งขึ้น, จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลง และการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในลุยเซียนา

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 84.48 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (25 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,939.90 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกหลังจากลดลง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 24.234 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 948.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 15.50 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,229 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (25 ส.ค.)  หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ระดับ 104.0776

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน, ยูโร, ปอนด์, ดอลลาร์แคนาดา และโครนาสวีเดน โดยดอลลาร์แข็งค่าแตะ 146.3690 เยนในวันศุกร์ (25 ส.ค.) จากระดับ 145.8610 เยนในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.), ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3591 ดอลลาร์แคนาดาจากระดับ 1.3575 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 11.0306 โครนาสวีเดน จาก 10.9889 โครนาสวีเดน แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8838 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.8845 ฟรังก์สวิส

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0808 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จากระดับ 1.0809 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าสู่ระดับ 1.2596 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2607 ดอลลาร์สหรัฐ